3 ขั้นตอน การใช้เครื่องทอดไร้น้ำมัน Xiaomi One moon air fryer review

0

ทอดไร้น้ำมัน ทำอาหารกินแบบคลีนๆ ไม่อ้วน แถมยังง่ายสุดๆ

คนแบบแอดไม่เคยทำอาหารอะไรมาก่อน เคยทำแค่มาม่า กับใช้ไมโครเวฟ ไข่ต้มก็ไม่เคย

แต่วันนี้แอดข้ามขั้นไปทำไก่ทอดได้แล้ววว!!

บอกได้เลยว่า แอดประทับใจเจ้าเครื่องทอดไร้น้ำมัน Xiaomi air fryer สุดๆ เพราะมีแล้วดี ชีวิตง่ายม้ากกกกก ทำอาหารไม่เป็น ต้มไข่ไม่ได้ อย่างแอดก็สามารถทำไก่ทอดได้แล้วววว

เครื่องทอดไร้นำ้มัน Xiaomi ทำงานโดยการดูดอากาศออกทำให้ร้อนขึ้นจนอาหารเราสุกเลยทีเดียว จุดเด่นของเครื่องนี้ ก็ตามชื่อเลย มันไม่ต้องใช้น้ำมัน!!!

ทำให้เราสะดวกขึ้น ทำอาหารได้ง่าย แค่เอาอาหารใส่เข้าไปแล้วรอ ก็ได้กินแล้ววว หรือถ้าเรากลัวมันไม่สุก ก็พลิกด้านอาหารบ้าง

การที่ไม่ใช้น้ำมัน และดูดน้ำมันออกจากอาหาร ทำให้เรากินได้คลีนขึ้น เป็นการลดแคลลอรี่ หรือ ความอ้วนจากอาหารไปในตัว

ในช่วงเวลาวิกฤต COVID นี้ แอดเห็นประโยชน์อีกอย่างคือ มันช่วยให้เราเราไม่ต้องไปซื้อน้ำมันจำนวนมากมาดองไว้ในบ้านอีกด้วย

มาๆ แอดจะเล่าการทำงานของเครื่องทอดไร้น้ำมัน Xiaomi ให้ฟัง

เครื่องจะมีสีขาว ดูกลมๆ สวยงาม หน้าตาคล้ายๆหุ่นยนต์จากเรื่องสตาวอร์น่ะแหละ การใช้งานก็เรียบง่ายเหมือนหน้าตา

  1. เสียบปลั๊ก
  2. ใส่อาหาร
  3. หมุน ตั้งเวลาที่ต้องการ

รอเฉยๆ แค่นี้ก็ได้กินแล้ว!!

ทั้งเห่อ แล้วก็อยากลองวิชา แอดเลยจะไปซื้อนัตเก็ตมาทอดซะหน่อย เพราะเป็นอาหารที่อร่อย แถมยังน่าจะทำยากสำหรับแอด (เตรียมกะทะ ใส่น้ำมัน ต้องพลิกไปพลิกมา ทอดเสร็จต้องเทน้ำมันทิ้ง แล้วก็ล้างน้ำมันออกจากกะทะอีก. ใช่มะ?)

แต่แต่ ไป Makro หานัตเก็ตไม่เจอ เลยได้หอยเชลล์เทียมมาแทน

เครื่องทำอาหารได้หลากชนิดมากนะครับ ตั้งแต่ทอดลูกชิ้น หอยจ้อ นัตเก็ต ไก่ทอด ไปจนถึง กุ้ง และอื่นๆ พ่อบ้านแม่บ้านไปลองกันได้

หานัตเก็ตไม่เจอ เอาหอยเชลล์เทียม (จากเนื้อปลา)ไปก่อน

ใส่อาหารสด หรือ สำเร็จรูป ลงไปได้เลย จะเห็นว่ามีพื้นที่ใส่ไม่มากนะครับ ถ้าบ้าน 5-6คนขึ้นไปอาจจะแนะนำตัวอื่นที่ใหญ่ขึ้น แต่ถ้า อาศัยกัน 1-4คน เครื่องทอดไร้นำ้มัน รุ่น Xiaomi air fryer One moon ลุยได้สบาย

ทำ เฟรนฟรายซ์ ไก่ทอด กุ้ง หรือ หอยจ้อก็ยังได้

ใส่อาหารกิน 1-4 คนได้สบาย ถ้าใส่เยอะก็พลิกอาหารบ่อยๆหน่อย

หมุนตั้งเวลาเสร็จ ปิดฝาใส่อาหารเข้าไปในเครื่องทอดไร้น้ำมันได้เลย. ตั้งได้ประมาณ 50 นาที

ถ้าอาหารชิ้นใหญ่ เราอาจเปิดมาพลิกอาหารหน่อยก็ได้

ปรับเวลาได้ตามใจ ตามอาหาร

รอสักครู่อาหารก็จะสุกเอง ร้อนๆ หอมฉุย ไขมันต่ำคลีนๆไม่อ้วน

บอกเลยว่าเหมาะกับคนที่ขี้เกียจทำอาหาร คนลดความอ้วน และคนไม่ชอบล้างจาน
แถมไม่ต้องใช้น้ำมันให้เปลืองอีกด้วย (ใช้ไฟฟ้าแทนนะ)

อาหารจะไม่ค่อยมัน แห้งๆ คลีนๆจ้า

ตัวเครื่องมีความจุ 2L ไฟ 800W. 220V

ถ้าใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ทางนี้เลยจ้าา (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามร้านอะเนอะ)
Lazada http://bit.ly/2IPCAtX

เดือดมากๆ กับรีวิวกาต้มน้ำร้อน Xiaomi Smart Kettle

0

พอดีมีโอกาสสั่งกาต้มน้ำมาใช้ เพราะที่บ้านชอบต้มน้ำดื่ม (แม้จะกรอง RO แล้วก็ตาม) ไหนๆก็ไหนๆ แอดมารีวิวซะเลย ว่าการต้มน้ำ Xiaomi Smart Kettle นี่มันดี/คุ้มมั้ย

อันดับแรกเลย ต้องบอกก่อนว่า มันมี 2 แบบคล้ายๆกันนะ Xiaomi Kettle (เชื่อมต่อมือถือไม่ได้) กับ Xiaomi Smart Kettle (เชื่อมต่อผ่านแอพมือถือ Mi Home)

สังเกตง่ายๆว่ารุ่น Smart จะแพงกว่า มีขอบสีเงินบริเวณฝาปิด ราคาประมาณ 900-1,000 บาท (รุ่นธรรมดาประมาณ600 บาท ต่อแอพไม่ได้นะครับ)

ช้อปรุ่นธรรมดา :
ช้อปรุ่น Smart :
ปล. เท่าที่ลองผมคิดว่ารุ่นธรรมดาก็พอครับ เพราะต้มได้ไวมากๆ

รีวิว xiaomi smart kettle ราคา mi home

กาต้มน้ำร้อน Xiaomi Smart Kettle มาแบบเรียบง่ายมากๆ วัสดุสีขาวสวยงาม ดู หรูและ minimal สุดๆ ในกล่องจะมี ตัวกาน้ำร้อน กับ ฐานตั้ง(และสายไฟที่อยู่ติดกัน) โดยเราสามารถซ่อนสายไว้ในฐานตั้งได้ด้วยนะ

ก่อนเริ่มใช้งานเติมน้ำเข้ากาก่อน โดยกดปุ่มเปิดตรงฝากา ด้านในจะมีบอกให้เราเต็มระดับน้ำขั้นต่ำ และ ห้ามเกิน 1.5 ลิตร

เร่ิมต้มน้ำ ก็ง่ายมากกกกกก แค่วางกาต้มน้ำไว้บนแท่น แล้วกดปุ่ม น้ำอุ่น/น้ำเดือด กาต้มน้ำ Xiaomi Smart Kettle ก็จะเริ่มทำงานทันที โดยเราสามารถดูอุณหภูมิได้จาก Mi Home app ได้เลย Xiaomi ต้มน้ำได้เดือดไวมาก จนไม่จำเป็นต้องดู app ด้วยซ้ำ

ต้มน้ำ 1.5 ลิตรเดือดได้เร็วไวใน 3 นาที เรียกว่าไม่ทันทำอะไรก็เสร็จซะแล้ว

รีวิว xiaomi smart kettle ราคา mi home
รีวิว xiaomi smart kettle ราคา mi home

เราสามารถตั้งอุณหภูมิกาน้ำร้อน ได้นาน 12 ชม. เลือกได้เลยว่าอยากให้อุ่น หรือ ร้อนระดับไหน

รีวิว xiaomi smart kettle ราคา mi home

รวมๆแล้วแอดให้ 4.5 คะแนนสำหรับกาต้มน้ำ Xiaomi Smart Kettle

ข้อดี
ดีไซน์สวย ไฮเทค และดูดีมีตระกูลมาก เชื่อมต่อมือถือ เพื่อควบคุมความร้อนได้ผตลอดเวลา น้ำเดือดเร็วไว เทน้ำได้ทันที ไม่ต้องกดเปิดฝากา และรักษาความร้อนได้ดีพอสมควร

ข้อเสีย
เนื่องจากฝากาไม่ได้ปิดโดยสมบูรณ์ อุณหภูมิน้ำอาจจะเย็นได้ง่ายกว่า กาต้มน้ำแบบที่ปิดสนิทมิดชิด

ช้อปรุ่นธรรมดา : https://bit.ly/3fIHlET
ช้อปรุ่น Smart : https://bit.ly/2LmI3Ki
ปล. เท่าที่ลองผมคิดว่ารุ่นธรรมดาก็พอครับ เพราะต้มได้ไวมากๆ

วิธีโหลดรูปจากกล้องเข้า iPhone 📲ง่ายๆด้วย MITZ xBridge (และ save รูปจากมือถือเข้าเมม SD card)

0

วันนี้มาแนะนำ Card reader สำหรับไอโฟน ด้วยความสามารถที่บอกเลยว่าเอาใจทั้งตากล้อง นางแบบ นายแบบ และเพื่อนๆผู้มาขอรูปของเขา

เพราะ MITZ xBridge – ตัวอ่านการ์ด SD, micro SD จะทำให้เราโหลดรูป ด้วยไฟล์ชัดละเอียดยิบ (แบบ Original หรือ RAW ก็ได้ยังได้)

ต้องบอกว่า xBridge ใช้ง่ายที่สุด ถ้าเทียบกับทุกอุปกรณ์ที่ Gadgeteer เคยรีวิวมาเลยครับ เพราะมีสินค้าแบบนี้หลายตัว ไม่ว่าจะเป็น iDrive, iMemory อะไรต่างๆ เมื่อเทียบกันแล้ว xBridge สะดวกกว่าคนละเรื่องเพราะ ไม่ต้องโหลดแอพแปลกมาที่ใช้ยุ่งยาก แต่ใช้แอพ Photos, Files ของ Apple เองเลย (อยู่ในเครื่องไอโฟนอยู่แล้ว)

MITZ xBridge คือ สวรรค์ที่ทำให้เราโหลดรูปง่ายที่สุดที่เคยมีมา

หลายๆครั้งที่เราอยากอัพรูปจากกล้อง หรือ โหลดรูปจากกล้องเข้ามาแต่งในมือถือ แต่ขั้นตอนมันยุ่งยากเหลือเกิน
– เปิดกล้อง และ wifi กล้อง
– เชื่อมต่อกล้อง กับมือถือ iPhone (หรือ iPad)
– เปิดแอพและพยายามเชื่อมต่อ
– เลือกรูป-โหลดรูป ทั้งช้า ทั้งหลุดบ่อย
– ได้ไฟล์รูปขนาดเล็ก ไฟล์ไม่ละเอียด แต่งแล้วเสียของอีกตะหาก
– ไม่ได้ไฟล์ Original หรือไฟล์ RAW

บางคนเป็นตากล้อง เพื่อนมาขอโหลดรูป เราก็จะอดเล่นเน็ตเล่นมือถือ (แถมยังเปลืองแบตอีกตะหาก)
นึกถึงตอนใช้แอพแต่ละค่ายนะครับ ยุ่งยาก และ ไม่สะดวกสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น
Cam Remote ของ Fujifilm
Image App ของ Panasonic
Leica FOTOS ของ ไลก้า
Imaging Edge Mobile ล้วนใช้ยากมากๆ และมีดาวรีวิวน้อยทั้งนั้น

ความยุ่งยากข้างบนแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว มันทำให้เรายอมแพ้ เลือกที่จะไม่อัพรูปตอนเดินทางเที่ยว แต่รอกลับบ้านเพื่อโหลดรูปในคอมแทน

พอได้ลอง MITZ xBridge แอดรู้สึกเลยว่า นี่มันมิติใหม่ของการอยู่ร่วมกันกับกล้องชัดๆ การใช้งานง่ายม้ากกกกกก แค่เอาเมมเสียบ xBridge แล้วก็เอาไปเสียบมือถือไอโฟนทุกรุ่นได้เลย

ข้อดี
– ความเร็วสูงสุดในการดูรูป และ โหลด ยิ่งการ์ด SD, micro SD ดี ก็ยิ่งไวขึ้น
– ใช้งานง่ายด้วยแอพ Photos กับ Files ที่มีใครเครื่องอยู่แล้ว
– ได้ความละเอียด Original ไฟล์เดิม เป๊ะๆ หรือ Raw ไปเลย
– รองรับกับกล้องทั่วไปเกือบทุกรุ่น
– ออกแบบสำหรับ iPhone, iPad โดยเฉพาะ
ใครที่เมมเต็มบ่อยๆ ใช้ xBridge โหลดรูปออกจากมือถือเข้า SD card, micro SD card ได้ด้วยนะ

ข้อเสีย
– ยังไม่รองรับเมมแบบ Compact Flash ของกล้องบางยี่ห้อ
– ไม่รองรับ Android
– ไม่รองรับ iPad Pro (Type C)

รู้ถึงความเจ๋งกันแล้ว แอดขอเล่าวิธีใช้งานง่ายๆแล้วกัน จริงๆใช้ง่ายจนไม่จำเป็นต้องอธิบายด้วยซ้ำ แต่เพื่อความละเอียด ลุยกันเลย

เช็คให้แน่ใจก่อนนะครับ ว่าเสียบเมมสนิทแล้ว พอเสียบเมม แล้วก็ เปิดแอพ Photos หรือ รูปภาพ ที่มาพร้อมไอโฟนได้เลย

จะเห็นว่ามีปุ่ม import (นำเข้า) เพิ่มมาด้านมุมขวาล่าง เมื่อกดไปดู เราสามารถเห็นรูป และ วีดีโอได้ทันที

บางทีอาจต้องรอสักพัก ถ้าไม่ขึ้น ให้เช็คว่า xBridge เสียบเมมดีรึยัง มีไฟทำงานอยู่มั้ย

โดยเราจะเลือกเฉพาะรูปที่ถูกใจ หรือ เลือกรูปเป็นวัน วัน. หรือ เลือก import all (นำเข้าทั้งหมด) ก็ได้ตามสะดวก

นอกจากใช้โหลดรูปจากเมมเข้าไอโฟนได้เลย. xBridge ช่วยให้เราโหลดรูปออกจากมือถือ ไปสู่เมมได้ด้วย! เพียบแค่เราเสียบ xBridge ไว้ กับไอโฟน ไอแพด
จากนั้นเลือกรูป แล้ว กดปุ่ม share > save to file > microSD/ SD card ได้เลย

เพียงเท่านี้ ก็แก้ไขปัญหาเมมเครื่องไอโฟน ไม่พอด้วย (ย้ายแอพออกไม่ได้นะครับ ระบบ iOS ไม่รองรับ) ยิ่งเราเอารูปออกจากเครื่องเยอะ เราก็จะมีพื้นที่ให้โหลดแอปใหม่ๆเพิ่มขึ้น

เล่ากันมาตั้งนาน ใครสนใจ MITZ xBridge ไปจัดได้เลยที่ http://bit.ly/3aCjwLV

VPN คืออะไรทำไมรัฐบาลไม่ชอบ

0

เวลาเล่นเน็ต ใครๆก็อยากเป็นส่วนตัวทั้งนั้น เราไม่ชอบให้ใครชะโงกดูจอ ตอนเล่น Social จริงมั้ย

แต่รัฐบาลสามารถบงการผู้ให้บริการ internet ต่างๆทุกเจ้า ทั้ง AIS, True, Dtac รวมไปถึงเน็ตบ้านเช่น 3BB และอื่นๆอีกมากมายอีกด้วย

ดังนั้นรัฐบาลจึงสามารถมายุ่งกับความเป็นส่วนตัวของเราได้ รวมถึง แบน pornhub.com อีกด้วยนะ (เห็นมั้ยล่ะว่าเมืองพุทธมันน่ากลัวจริงๆ)

อย่างไรก็ดี VPN คือตัวช่วยของเรา ซึ่งจะซ่อนตัวตนของเราได้ และทำให้เราเปิด pornhub ด่าเพื่อน ด่าลุง และเว็บอื่นๆอีกมากมายได้อย่างมีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

VPN ย่อจาก Virtual Private Network ชื่อนี้ไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่มัน จะเป็นตัวกลางระหว่างเรา กับ internet

ทำให้เรามีความปลอดภัย ดูหนังโป๊ได้ & โพสอะไร ไม่โดนจับ IP address

สำหรับใครที่สนใจใช้ VPN เราสามารถโหลดแอพมา และใช้ได้ง่ายม้ากกกกกกกกกก
แบบเสียเงินก็มี แบบฟรีก็เพียบ (ดีด้วย)
รายชื่อแอพตามนี้เลยจ้า
– VPN Proxy Master
– VPN – Supernet
– Yoga VPN

ปล. อย่าโพสข้อมูลส่วนตัวลงในเน็ตด้วยล่ะ เพราะถ้าทำแบบนั้น VPN ก็ไม่ช่วยอะไรนะจ๊ะ

รีวิวเครื่องฟอกอากาศ PANDO รุ่น CUBE

0

วันนี้มีรีวิว เครื่องฟอกอากาศ ขนาดกระทัดรัดจ้า มันคือ Pando Air D Air Purifier รุ่น CUBE

ทันทีที่เห็นแพคเกจ ก็รู้สึกว่า เครื่องมันน่าจะดีมากๆ แล้วมันก็ดีจริง เพราะเค้าใช้วัสดุดี ดีไซน์เรียบหรู ตัวเครื่องเป็นสีขาวสะอาด เลอะยากเช็ดทำความสะอาดง่าย

การสั่งงานก็ง่ายมากๆ เพราะมีแค่ 3 ปุ่มเท่านั้น คือ
– โหมดเงียบ
– โหมดทำงานเต็มที่ ( ปรับได้3ระดับ)
– ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง

มาแบบเรียบง่ายแต่ลงตัว
กรองอากาศ ฟอก อากาศ pando
ด้านบนเป็นลายคลื่น
ด้านล่างเป็นจุดๆ ช่องรับลม เหมือนแบรนด์ดังอื่นๆ ปล.ใช้ปลั๊กที่รองรับในเมืองไทย ไม่ต้องหาหัวแปลง

เห็นเล็กๆแบบนี้แต่ตัวเครื่องสามารถช่วยทำความสะอาดอากาศได้ 190 ลบ.ม./ชม.
หรือครอบคลุมห้องขนาด 20 ตร.ม.

ตัวเครื่องมาพร้อมไส้กรอง HEPA กรองฝุ่นขนาดเล็กถึง 0.3ไมครอน กรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศและสารก่อภูมิแพ้ได้ ถึง 99.97%

กรองอากาศ ฟอก อากาศ pando
เปิดฝาล่าง แล้วถอดเปลี่ยนได้ง่ายม้ากก . ถ้าไส้กรองเต็ม เครื่องจะเตือนเราด้วย

• ขนาด : 21×21.3×31.7 ซม.
• นำ้หนัก : 2.89 กก. (รวมไส้กรอง)
• กรองอากาศได้สูงสุด : 190 ลบ.ม./ชม.
• เหมาะสำหรับห้องขนาด 20 ตารางเมตร
• ระดับเสียง≤55dB(A)
• กำลังไฟ:34W
• Input AC: 220V
• ระดับความแรงลม สามารถปรับได้ 3 ระดับ สูง ปานกลาง ต่า
• ช่องดูดอากาศ 270 องศา
• ไส้กรองHEPAช่วยกรองฝ่นุขนาดเล็กถึง0.3ไมครอนสิ่งปนเปื้อนในอากาศและสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง99.97%

กรองอากาศ ฟอก อากาศ pando

ไส้กรองสำหรับเปลี่ยน ทางแบรนด์ยังไม่ได้กำหนดราคามานะครับ

ใครที่สนใจไปตำได้ทางนี้เลย (ปล. ทางร้าน Pando Selection มีสินค้าอื่นๆอีกเพียบ)
Lazada : http://bit.ly/2SoKXCu
Shopee : http://bit.ly/2RzYyGw
JD : http://bit.ly/2uNZtL5

Twitter ปลอดภัยแค่ไหน? retweet ยังไงให้ Stalker ตามเราไม่ได้

0

[Disclaimer] บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อให้คนที่อยากมีความเป็นส่วนตัว ได้รับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

เล่นทวิตทั้งที อยากมีความส่วนตัวหน่อย (โว้ยย)

มีหลายๆคนเลือกเล่น Twitter แทน Facebook เพราะคิดว่ามีความส่วนตัวมากกว่า ไม่ต้องใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง แต่บางครั้งเรายังก็โดนคุกคามได้อยู่ดี (ที่เราก็บ่นไปเรื่อย อาจกระทบกับคนอื่นได้ การทะเลาะกับคนใน social จึงก็พบได้บ่อยๆด้วยอะเนอะ เลี่ยงการโดนตามก็จะดีกว่า)

เช่นไปฟอล สาวที่มีแฟนแล้ว ก็ต้องกลัวแฟนเค้าตามมาต่อย จริงมั้ยย!?

แอดเลยลองรวมๆ ดูว่ามีข้อมูลที่ควรเก็บไว้เป็นส่วนตัวบ้าง ตามรายการด้านล่างเลยจ้า

  • ชื่อนามสกุลจริง
  • ชื่อเล่น
  • ตั้งปิด Location access ด้วย
  • รูปของเรา (และสิ่งของ)
  • รูปสถานที่พักอาศัย หรือ ที่อยู่ใกล้เคียง
  • วันเกิด
  • ข้อมูล ที่ทำงาน สถานศึกษา
  • **ไม่ฟอลเพื่อนที่มีสังคมเดียวกันในชีวิตจริง
    • ไม่แทนชื่อจริง/เล่น กับเพื่อนใน twitter ด้วยนะ
    • ส่วนตัวแทบตาย ให้โดนเพื่อนแฉนี่ยอมไม่ได้จริงๆ

คนรอบคอบทั่วไป ก็จะจบกระบวนการตามด้านบน แต่จริงๆแล้ว เทคโนโลยีก็สำคัญ!! (ถ้า stalker ไม่มีเส้นสายเราก็รอดไป)

  • เพราะคนดักตบ เราอาจมีความพยายามมากกว่าที่คิด และใช้เทคโนโลยีตามเราได้ !!!
    • ถ้าใช้เน็ต 4G หากผู้ประสงค์ร้าย ทำงานอยู่องค์กรโทรศัพท์ เราก็อาจจะโดนล้วงข้อมูลการใช้งาน และ ระบุตำแหน่งได้อยู่ดี
      • เราล้วนมีการลงทะเบียนซิมกันทุกคนอยู่แล้ว  เช่น ถ้าเราใช้เครือข่าย AIF  แล้วบังเอิญ stalker ทำงาน AIF เค้าจะสามารถล้วงข้อมูลเราได้
    • ถ้าใช้เน็ต wifi ควรใช้ wifi สาธารณะในที่ตามได้ยาก และ ไม่ต้องลงทะเบียน

เพื่อแก้ปัญหาจาก internet ด้านบน แอดแนะนำให้ใช้ VPN

VPN คือบริการ เพิ่มความส่วนตัวการใช้ internet ทำให้ตามรอยได้ยากขึ้น ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน นอกจากนี้ บริการ VPN ยังทำให้เราเล่นเฟซบุ๊คในเมืองจีนได้ด้วยนะ (ปกติโดนรัฐบาลบล็อค)

ตัวอย่างรายชื่อแอพ Free VPN

  • VPN Proxy Master
  • VPN – Supernet
  • Yoga VPN

เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น ก็อยากให้ใช้ VPN กันอย่างสม่ำเสมอนะครับ

ส่วนใครมีคำแนะนำเพิ่มเติมเสริมกันได้นะครับ หรือ ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดประการใด ขออภัย และ ขอบคุณที่ช่วยแก้ไขครับ 🙂

หลุดมือถือรุ่นประหยัด iPhone 9 / SE 2

0

หลุดมาเน้นๆ แบบไม่ต้องเดากัน สำหรับไอโฟน 9 หรือ SE 2 (ซึ่งเป็นรุ่นประหยัด)

มาพร้อมกับกล้องหน้า-หลัง อย่างละ1 ขอบตัวเครื่องกลับไปเหมือน iPhone 4S/5 และมีความเป็นเหลี่ยมมากขึ้น และยังใช้ Touch ID แสกนนิ้วมือในการปลดล็อคเหมือนเดิม

น่าจะยังใช้สายชาร์จ Lighting แบบเดิม แต่มีการตัดช่องต่อหูฟัง 3.5mm ออกไป เหมือนรุ่นใหม่ๆ
ปล. ยังมีขอบด้านบนและด้านล่าง เหมือน ไอโฟน 8 นะครับ


สเปคในข่าวลือ
– จอ 4.7 นิ้ว
– กล้องหน้า-หลัง 12MP
– A13 chip
– RAM 3 GB
– ความจุ 64/128​GB

น่าจะเริ่มวางขายในเดือน 4 ปีนี้เลย 😘

เก๋ากว่าที่คิด! Airpods สำหรับอากงอาม่า

0

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ใช้ Airpods กับอาม่านะครับ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะช่วยเติมเต็มอาม่าแอดได้ดีพอสมควรเลย

เริ่มมันเริ่มจากว่าวันก่อนนั่งใส่หูฟังทำงานอยู่ อาม่าก็ทักว่า “อังนี้อะไร” (โปรดอ่านเป็นสำเนียงจีน) และชี้มาที่หูแอด คือเค้าสนใจเจ้า Gadget สีขาวๆ ทั้งที่ไม่เคยสนใจ gadget อื่นๆมาก่อน ซึ่งมันก็คือหูฟังไร้สาย airpods จาก Apple นั่นเอง
อาม่าถามว่ากี่บาท แอดไม่ค่อยกล้าตอบซักเท่าไหร่เลยบอกไปว่าอย่ารู้เลย

จริงๆแล้ว อาม่าเค้าสนใจ เพราะมันดูคล้ายเครื่องช่วยฟัง (ช่วยขยายเสียงสำหรับผู้สูงอายุ และ คนหูไม่ดีนั่นเอง) เพราะผู้สูงอายุหลายๆคนมักมีปัญหาหูเสื่อม หูไม่ดี ตามธรรมชาติอะเนอะ ซึ่งผมก็อธิบายไปว่าไม่ใช่ มันเอาไว้คุย โทรศัพท์ กับฟังเพลงต่างหาก จากนั้นจึงนึกได้ว่า มันมีฟังก์ชั่น Live Listen ที่น่าเอามาลองกับผู้สูงอายุดู

เวลาที่บ้านกินข้าว หรือ รวมญาติกัน อาม่าอากงทั้งหลาย มักตามไม่ทันว่าลูกหลานพูดอะไร ทั้งๆที่หัวยังไว เพราะไม่ได้ยินนั่นเอง!

ฟังก์ชั่น Live Listen จะสามารถใช้ ไอโฟน เป็นอุปกรณ์รับเสียง และ ส่งเสียงเข้าสู่ Airpods โดยสามารถลด หรือ ขยายเสียงได้ด้วย

ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ สามารถช่วยผู้สูงอายุ เช่นอากง ให้ได้ยินเสียงจากใครที่พูดอยู่จากที่นั่งไกลๆ หรือ โต๊ะกินข้าว โต๊ะจีนฝั่งตรงข้ามตอนรวมญาติ ได้อย่างชัดเจน

วิธีเปิดใช้ก็ง่ายๆ

  • ไปที่ Settings > Control Center (ตั้งค่า > ศูนย์ควบคุม)
  • กด Customize Controls
  • เลื่อนไปด้านล่าง
    • กด + Hearing 
  • กด Back หรือ กลับ
airpods hearing live listen

เรียบร้อย แค่นี้ก็เสร็จแล้ว เราสามารถเลื่อน control center จากด้านล่างจอ เปิดกดปุ่ม Hearing เพียงเท่านั้น ไอโฟน หรือไอแพด ก็จะเป็นอุปกรณ์รับเสียง เพื่อส่งไปยัง Airpods ทันที

จากการทดลองต้องบอกว่า อาม่าผมแฮปปี้มากๆ เพราะเวลาไปกินข้าวกัน นอกจากกินอร่อยแล้วยังสามารถฟังลูกๆหลานๆพูดได้อย่างชัดเจนและตามทันสุดๆ ทำให้สามารถมีส่วนร่วมโต้ตอบกับลูกๆหลานๆได้ไวมากๆ

สำหรับใครที่มีทั้ง iPhone และ Airpods อยู่แล้ว ลองใช้โหมด Live listen ดูนะครับ อาจจะช่วยให้บรรยากาศบนโต๊ะกินข้าวของผู้สูงอายุสดใสขึ้นมากๆ ครอบครัวมีความสุขมากขึ้นอีกเยอะครับ

สบายตา สบายหัวกับแว่น Opthus – แว่นสำหรับ Gamer

2
ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า

นับวันเรายิ่งมองหน้าจอนานขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยไหล่ยังไปนวด แต่ตาของเรากลับไม่ได้รับการปกป้องบำรุงเลยแม้แต่น้อย วันนี้แอดก็ได้สิ่งของที่เหมาะกับยุคแห่งเกมนี้มาพอดี! มันคือแว่น Gamer นั่นเอง

ก็แน่ล่ะครับ E-Sports กำลังมา ไม่มีแว่นตอนนี้ แล้วจะมีแว่นตอนไหน เพราะอุปกรณ์เล่นเกมส์ที่สำคัญที่สุดไม่ใช่คอมพ์ แต่เป็นตาของเราเอง

Ophtus ซึ่งเป็นผู้นำด้านแว่น Gamer ของไทย ได้ออกแว่นตัวท็อปออกมา 2 รุ่น คือ Nighthawk และ Zero เพื่อยกระดับแว่น Gamer ไปอีกขั้น ที่เราเคยชมรุ่นก่อนๆว่า เบา รุ่นนี้เบาลงไปอี้กกก

เปิดมาต้องบอกก่อนเลยว่า Packaging ไฮโซมากๆ รู้สึกพรีเมียมตั้งแต่ยังไม่ทันสัมผัสเลยแหละ

ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
Packaging อลังการงานสร้าง
ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
เปิดกล่องมาเจอ กล่องแว่นที่หุ้มมาอย่างดี และ mission ของ Ophtus

Message บนกล่องของ ออปตัส เค้าดีมากๆนะครับผมเห็นแล้วชอบเลยเอามาแปลให้คร่าวๆแล้วกัน

ขอบคุณเพื่อนๆที่วางใจ Ophtus และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของเรา
หลังจากการทำงานพัฒนา product ด้านเกมมาหลายปี เราก็ได้รู้ว่า ฟังก์ชั่นและ ความสบาย คือสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเท่าๆกัน

นอกจากนี้เรายังรู้ว่า การใช้ gaming gear ที่เหมาะสมจะส่งผลกับประสิทธิการเล่นเกม (และ e-sports) เป็นอย่างมาก

เพราะเรายึดถึงหลักการเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา และ จากการทุ่มเท พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง มนที่สุดเราก็ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของแว่นเกมเมอร์

ด้วย วัสดุพรีเมียม และ การดีไซน์ เราหวังว่า อุปกรณ์ของเราจะแมทซ์กับอุปกรณ์เล่นเกมอื่นๆได้เป็นอย่างดี (น่าจะหมายถึงหูฟัง headphone นั่นเอง)
ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
แว่น Zero กับ Nighthawk เบาบาง พรีเมียม

มาเล่าคุณสมบัติเด็ด ที่เหมือนๆกันของแว่นทั้ง 2 รุ่นก่อนเลย โดย แว่นทั้ง Zero และ Nighthawk ออกแบบมาเพื่อให้เราใส่ได้นาน (แน่ล่ะ เกมเมอร์ทั้งที ไม่ชนะไม่เลิก บางทีจะเล่น Dota ตาเดียว แต่ต้องยาวจนเช้า 55555) ไม่กดทับกระดูกขมับและท้ายทอย ทำให้เราไม่ปวดหัว นอกจากนี้ด้วยขาแว่นที่เรียวบางม้ากกกกกก เรายังสามารถสวม Headphone อันใหญ่ๆได้พร้อมๆกับแว่นนี้อีกด้วย เรียกได้เลยว่ารู้ใจ เข้าใจ Gamer สุดๆ

ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
บางงงงง ขาแว่น บางเฉียบ เอาใจ เกมเมอร์
โดยเฉพาะคนที่ใช้ Headphone
ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
เราก็ไม่ทันรู้ตัวว่ามีปัญหาก็ได้ แต่ Ophtus ก็แก้ปัญหาให้เราแล้ว 🙂
ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
หูฟังหนาๆ มักมีปัญหากับแว่นทั่วไป ควรใช้กับแว่นบางเฉียบของ Ophtus

แว่น Nighthawk ราคา 3,690 บาท และ รุ่น Zero ราคา 1,990 บาท

บอกเลยว่าน้ำหนักของแว่น ต่างนิดเดียวมีผลมากๆ ผมเคยใส่แว่นที่เราก็คิดว่ามันเบานะ แต่พอใส่ไปหลายๆชม. กลายเป็นว่ามันทำให้เราเมื่อยหน้าม้ากกกกกก ตากระตุก หน้ากระตุกไปหมด (อย่างว่าแหละ เราเล่นกล้ามจมูกไม่ได้เนอะ)

ทั้งสองรุ่นมีเลนส์แบบพิเศษที่มีเทคโนโลยี Retina X Amber ลักษณะเลนส์จะมีสีเหลืองหน่อยๆ กรองแสงสีฟ้าที่อันตรายได้มากกว่าเลนส์ทั่วไป 6 เท่า! เพื่อเพิ่มความ Contrast ตอนเล่นเกม ตอนใส่ก็เหมือนจะเห็นจอ เห็นรอบๆชัดขึ้น ผมว่าดีครับ (ทั้งๆที่เลนส์ไม่ได้มีกำลังขยาย)

โดย เลนส์นี้ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากโรงงานที่ดีที่สุดในเอเชีย ช่วยลดอันตรายของแสงสีฟ้าจากหน้าจอทุกประเภท ออปตัสเค้าเอาจริงเอาจังมากๆบอกเลย

ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า

แว่น Zero – โดนใจวัยมันส์

เริ่มจากแว่น Zero ก่อนเลย อันนี้จะหน้าตาคล้ายรุ่นก่อนๆ ด้านหน้าเป็นพลาสติก แต่ครั้งนี้เปลี่ยนวัสดุตัวขาแว่นเป็น Nova Ultem ซึ่งเบาม้ากกกกกกก ตัวแว่น Ophtus Zero นี่เบาจนบางครั้งลืมเลยว่าใส่อยู่เพื่อที่ว่า เวลาเล่นเกมนานๆจะได้ไม่เมื่อยตา เมื่อยจมูก

ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
คล้ายๆรุ่น Classic แต่มีการปรับวัสดุ เบาบาง เพื่อรองรับ Headphone
ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
แข็งแรง แต่บางเบา ทรง Classic ที่ทำให้คุณดูเฉียบคมตลอดกาล
ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
ขาแว่น รุ่น Zero
ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
ยอมงอ ไม่ยอมหัก

ยืดหยุ่น โค้งงอได้ แค่จับดูก็รู้ว่าแทบไม่มีทางหักได้แน่นอน

เด็ดโดนต้อง Nighthawk – โหดแบบที่มืออาชีพใช้กัน

แว่น Ophtus รุ่น Nighthawk เนี่ย ราคาโดดขึ้นมาพอสมควร ซึ่งพอได้เห็นได้จับตัวจริงเนี่ย ก็รู้สึกว่ามันแตกต่างจริงๆ ใช้วัสดุ Exalted Stainless Steel (stainless แบบยกระดับขึ้นอีก) เราสามารถกดมันเท่าไหร่ก็ได้ มันจะกลับมาเหมือนเดิม ต้องตั้งใจหักจริงๆถึงจะทำร้ายมันได้น่ะเอ้อ
จุดเด่นแรกที่เห็นเลยคือ เป็นแว่นที่มีความโค้งมากๆ แว่นที่เราใส่เข้าไป เราจะไม่รู้สึกว่ามีแว่นรบกวนการมองเห็นเลยครับ

ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า


ทดลองบีบให้เรียบเลย

ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า
Gamer ต้องรับแรงกดดันได้ดี และ แว่นก็เช่นกัน 😛

เลนส์เป็นแบบไร้ขอบ เล่นเกมแบบไม่บดบังวิสัยทัศน์ ภาพ 4K 8K 16K มายังไง ใส่แว่นแล้วต้องชัดจุใจเหมือนเดิม ใครมีจอโค้ง ก็ควรใช้แว่นโค้งๆนี่แหละ สมกันดีมาก

ตรงจมูกมีส่วนโค้งออก ทำให้มันใจดั้งโด่งแค่ไหนก็เป็นอิสระจ้าา ฐานรองจมูกจะมียางนุ่มๆหุ้ม ตัวแว่นด้านข้างโป่งออก ไม่หนีบหัว ปลายขาแว่น จะมียางช่วยเกาะยึกให้เรารู้สึกแน่นกระชับ

เปรียบเทียบ รุ่น Classic ดั้งเดิม จะเห็นว่า Ophtus มีการพัฒนาไม่หยุดยั้งจริงๆ
รุ่น Zero ราคา 1,990 บาท
รุ่น Nighthawk ราคา 3,690 บาท
ใครอยากคิลกระจาย ชนะไม่หยุด Rank ขึ้นไวๆไปจัดได้เลย สามารถสั่งได้เลยที่ https://www.messenger.com/t/ophtus

ophtus ออปตัส zero nighthawk แว่นเกมเมอร์ เล่นเกม กรองแสงฟ้า

4 วิธีทำความสะอาด AirPods แบบปลอดภัยให้ใหม่เอี่ยม (2019)

0

AirPods หูฟังไร้สายสุดคลาสสิกจากApple ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้มันโด่งดังไปทั่วโลกพร้อมๆ กับโทรศัพท์ iPhone เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของหูฟังยุคใหม่ ที่หลายบริษัทเอาเป็นตัวอย่าง ไม่ใหญ่เทอะทะ ฟังเพลงง่าย คุยโทรศัพท์สะดวก ยิ่งพอเข้าคู่กับไอโฟนด้วยแล้ว ก็เหมือนเปิดโลกใหม่อย่างไงอย่างนั้น

แต่ที่กำลังพูดถึง ไม่ได้หมายความว่า AirPods มันจะดีไปเสียทุกอย่างนะ มันก็มีถูกใจ-ไม่ถูกใจบ้างตามประสาคนที่ใช้ แต่ที่จะเห็นบ่นกันเยอะๆ ก็คือวัสดุของมัน ที่ทำมาจากพลาสติกสีขาว ซึ่งบอบบางแถมเปรอะง่าย ใส่ฟังเพลงแปปเดียว ดึงออกมาก็มีของแถมเหลืองๆ ติดออกมาด้วย….แหวะ (ไม่อยากจะพูด นึกแล้วจะอ้วก) 

ดังนั้นใครที่รักความสะอาดจึงต้องหมั่นทำความเจ้า AirPods เสมอ แต่การที่เราดูแลผิดวิธีอาจส่งผลให้มันมีอายุการใช้งานที่สั้นลง เรียกว่าเสียทั้งเวลาและเงิน

แน่นอนว่าพูดมาซะขนาดนี้ แอดต้องเตรียมทางออกที่ดีที่สุดไว้ให้อยู่แล้ว กับ 4 วิธีทำความสะอาด AirPods แบบปลอดภัย ให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ

1.ทำความสะอาด AirPods ด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์

ไมโครไฟเบอร์คือเนื้อผ้าชนิดพิเศษ สำหรับใช้ทำความสะอาดกับวัสดุที่พื้นผิวบอบบาง เกิดรอยง่าย มีคุณสมบัติในการจับฝุ่น น้ำและคราบไขมันได้ดีกว่าเนื้อผ้าแบบทั่วไป  ดังนั้นจึงเหมาะที่จะนำมาใช้ทำความสะอาด AitrPod สุดๆ

(ตัวอย่างเนื้อผ้า ไมโครไฟเบอร์ VS Cotton)

Tips ถ้ารู้สึกว่าผ้าอย่างเดียวเอาไม่อยู่ ให้พรมน้ำลงบนผ้าหมาดๆ แล้วเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง  

2.ใช้ไม้ปั่นหูหรือก้านสำลีทำความสะอาดบริเวณร่องลึก

ด้วยวิธีนี้จะทำให้เรา สามารถทำความสะอาดตัวเคสและร่องลึกของ AirPods ได้หมดจด โดนเฉพาะด้านในของฝา ที่มักมีฝุ่นจับอยู่เสมอ (ส่วนด้านนอกก็ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดตามปกตินะครับ ประเดี๋ยวจะเสร็จตอนเช้าเอา)  และอย่าลืม!!! ทำความสะอาดขี้หูรอบๆ ตะแกรงของลำโพง AirPods ด้วย

Tips จุดที่ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือก้านสำลีเอาไม่อยู่ แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

3.ดึงสิ่งสกปรกออกด้วยกาวดินน้ำมัน

เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับการกำจัดคราบสกปรก เหนียว-แน่น-ลึก ตามตัวเคสหรือตะแกรงหูฟังที่ไม่สามารถเช็ดออกได้ ด้วยการปั้นกาวดินน้ำมันให้เป็นไปตามรูปทรง แล้วแปะไปยังบริเวณที่ต้องการ (ไม่ต้องเอามาดมนะครับ)

tips ปั้นให้เหมาะพอดีมือ ไม่เล็กจนเกินไปจนจนดึงออกมาไม่ได้

4.ทำความสะอาดใบหูด้านนอกอยู่เสมอ

อ่านแล้วก็รู้ได้ทันทีว่า มันไม่เกี่ยวกับการทำความสะอาด AirPods โดยตรง แต่อย่าลืมว่า…การที่เราหมั่นดูแลสุขภาพ(รู)หูอยู่เสมอ จะช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องมานั่งเช็ดนั่งล้างหูฟังอยู่บ่อยๆ

ที่แอดกำลังพูดถึง ไม่ได้หมายความว่าให้เรากลับบ้านไปแคะหูทุกวันนะครับ (อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ประเดี๋ยวจะหนวกก่อน AirPods จะสะอาด) แค่แนะนำให้ใช้ไม้ปั่นหูทำความสะอาดใบหูชั้นนอกพอ ย้ำอีกทีว่าชั้นนอกเท่านั้นนะ!!! ไม่ต้องแหย่เข้าไปด้านใน เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคือง

https://www.freepik.com/free-photos-vectors/background">Background photo created by freepik - www.freepik.com

ปล.ใครที่รู้สึกว่าตะแกรงหูฟัง มีแผ่นเหนียวๆ สีเหลืองติดออกมาทุกครั้ง ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแวะไปหาคุณหมอ เพื่อรับการดูแลช่องหูแบบพิเศษ

แก้ง่ายๆ เมื่อ Chrome ทำให้ Netflix ไม่ชัดแบบ Full HD

0

Netflix กับสุดยอด Video Streaming ที่ทั่วโลกต่างยอมรับ

Netflix ยักษ์ใหญ่แห่งวงการ(ถ่ายทอด)ซีรีย์-หนัง-ภาพยนตร์ หรือที่ต่างประเทศเรียกกันว่า “video streaming services” ปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากถึง 158 ล้านคน กระจายตัวอยู่ใน 130 ประเทศทั่วโลก (จำนวน User เยอะขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงกำไรเลย คาดว่าปีนี้ฟันไปเหนาะๆ 1 พันล้านดอลลาร์!!!) 

ข้อดีที่ทำให้ Netflix เติบโตได้รวดเร็วขนาดนี้ เป็นเพราะระบบสมาชิกแบบเหมาจ่าย ที่ราคาไม่แพงโอเวอร์ คือคุ้มม(ว๊)ากกับทั้งน้องๆ วัยรุ่นต้อนต้นไปจนกระทั่งตอนปลาย (หรือ “คนแก่” นั่นเอง) โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 280 350 450 และ 504 บาท/เดือน ซึ่งทั้งหมดต่างกันที่คุณภาพของวีดีโอ และระบบการแชร์ร่วมกันเท่านั้น โดยทั้งหมดสามารถดูหนัง วีดีโอ เกมโชว์ และซีรีย์ดังๆ ผ่านโทรศัพท์ แท็บเล็ต ทีวี sinv Browser บนคอมพิวเตอร์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงมีอินเตอร์เน็ต (ไม่มีก็ดูได้ถ้าโหลดมาเก็บไว้)

Netflix ดู HD หรือมากกว่าไม่ชัด?

แต่ปัญหาหนึ่งที่มักเจออยู่เป็นประจำ สำหรับคนที่ซื้อ Package แบบ Standard  (350 บาท/เดือน) ไปก็คือ คุณภาพของหนังไม่ตรงตามปกที่ตกลงไว้ หรือพูดง่ายๆ ว่าไม่ชัดนั่นเอง “แล้วตรูจะเสียเงินเพิ่มไปทำไมฟร่ะ!!” (เชื่อว่าในใจหลายๆ คนคิดอย่างนี้อยู่)

ปัญหา Netflix ดู HD ไม่ชัด ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดได้ 2-3 กรณี ดังนี้

1.เน็ตไม่แรง

เน็ตของเรา(อืด) ไม่แรงเอง ทำให้ตัวระบบต้องลดคุณภาพของหนัง เพื่อความต่อเนื่องในการเล่นวีดีโอ อันนี้แก้ง่ายๆ ด้วยการไปอัพสปีด

2.ดาวน์โหลดไฟล์เพื่อเก็บไว้ภายในเครื่อง

การดาวน์โหลดไฟล์เพื่อเก็บไว้ภายในเครื่อง จะทำให้คุณภาพของหนัง(บางเรื่อง)ลดลง ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ทำร่วมกันระหว่าง Netflix และผู้ผลิต เพื่อป้องกันการนำไปเผยแพร่ต่อ ดังนั้นถ้าอยากดูแบบ HD อาจต้องดูสดแบบ Streaming เท่านั้น

3.ใช้ Web Browser ในการเปิด Netflix เช่น Chrome หรือ Firefox 

หากใครที่เคยดู Netflix ผ่าน Chrome หรือ Firefox จะพอรู้สึกได้ว่า “ภาพมันไม่ค่อยชัด(หว่ะ)” เนื่องจากพื้นฐานของตัวระบบ  ถูกล็อกให้ video เล่นสูงสุดอยู่ที่ 720p ซึ่งสามารถเข้าไปแก้ไขได้ภายหลังด้วยการดาวน์โหลดส่วนขยายใน Store ของ Browหer นั้นๆ

สิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนการใช้งานแบบ HD หรือมากกว่า

  1. ตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนว่ารองรับระบบ HD หรือ Full HD หรือไม่
  2. เช็คคุณภาพการเล่นของวีดีโอ ว่ารองรับการใช้งานขั้นต่ำที่มากกว่า Full HD 
  3. ความเร็วเน็ตเกินกว่า 5 Mbps หรือมากกว่า สำหรับการชมผ่านระบบ Streaming ในโหมด HD และ Full HD 

tips ให้เช็คความเร็วเน็ตผ่านเว็บที่ได้รับการสนับสนุนจาก Netflix โดยตรง  (fast.com)

Super Netflix ตัวช่วยสำหรับดูหนังแบบ Full HD บน Chrome

หนึ่งในตัวเลือกที่มีการดาวน์โหลดกว่า 70,000 ครั้ง บน Chrome เป็นเครื่องมือสำหรับปรับแต่ง Browser เพื่อใช้ในการดู Netflix โดยเฉพาะ (ชื่อมันก็บอกอยู่ว่าเป็น Super Netflix) สารมารถใช้ Block สปอยล์ เล่นหนังต่อเนื่อง เพิ่มความเร็ว จัดการคำบรรยาย ฯลฯ รวมไปถึงการปรับความคมชัดให้เป็น Full HD 

tips สำหรับการปรับคุณภาพวีดีโอแบบ Full HD ให้เลือก Bit rate ที่สูงกว่า 5000

รายละเอียด 4 เทคโนโลยี ชาร์จแบตเร็ว ชาร์จแบตด่วน แบตเต็มไว

0

ไม่ใช่แค่สเปคหรือฟีเจอร์สุดเจ๋ง(เท่านั้น) ที่ใช้ดึงดูลูกค้า หันเปลี่ยนมาซื้อโทรศัพท์ยี่ห้อของตน บริษัท Smartphone หลายเจ้า เริ่มที่จะคิดค้นวิธีการชาร์จแบบใหม่ ให้แบตเตอรี่ในมือถือเต็ม เพื่อแก้อาการรอชาร์จมือถือนาน

เทคโนโลยีชาร์จแบตไว ชาร์จแบตด่วน แบบไหนดี ไม่ต้องเสียเวลารอนาน

ซึ่งพอมันป็นกระแส ทำให้หลายบริษัทเริ่มออกมาทำตาม นำเข้าชิปบ้าง ทำสายเองบ้าง หรือแม้แต่คิดค้น ผลิตเองทุกกระบวนการ  จึงอาจทำให้หลายคนสงสัยว่า “อันนี้ก็ชาร์จเร็ว อันนั้นก็ชาร์จไว” สรุปแบบไหนดีที่สุด? 

ถ้ายังไม่รู้…..วันนี้มีคำตอบให้ กับ 4 เทคโนโลยีชาร์จแบตเร็ว ชาร์จแบตด่วน ที่คุ้นหูแต่ไม่รู้รายละเอียด

1.ชาร์จแบตเร็วด้วย PD 

iPhone 11 ใช้สายชาร์จแบบไหนให้แบตเต็มไว , ซื้อ Sumsung มาจะชาร์จด่วนแบบ PD 3.0 ได้หรือไม่ , ระหว่าง Q.C. กับ PD แบบไหนชาร์จแบตเร็วกว่ากัน หาคำตอบได้ที่นี่

PD หรือที่รู้จักกันในชื่อ Power Delivery คือ เทคโนโลยีมาตฐาน สำหรับการชาร์จแบตเร็ว ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในทุกๆ บริษัท เรียกได้ว่ามือถือรุ่นใหม่ที่ออกมาเกือบทุกรุ่น รองรับการชาร์จแบตเร็วด้วยระบบนี้ทั้งหมด

iPhone 11 ใช้สายชาร์จแบบไหนให้แบตเต็มไว , ซื้อ Sumsung มาจะชาร์จด่วนแบบ PD 3.0 ได้หรือไม่ , ระหว่าง Q.C. กับ PD แบบไหนชาร์จแบตเร็วกว่ากัน หาคำตอบได้ที่นี่

PD เป็นสายเคเบิ้ล ที่มีกำลังสามารถจ่ายไฟได้สูงถึง 100 วัตต์ ตั้งแต่ 5V-20V ผ่านหัวต่อ USB-C กับ USB-C เข้าสู่อุปกรณ์ (เว้นแต่ iPhone บางรุ่น ที่ต่อจะใช้ USB-C to Lightning เท่านั้น) ซึ่งด้วยการจ่ายไฟที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มันถูกนำมาใช้กับทั้งโทรศัพท์ แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ค 

USB-C to Lightning

***ย้ำ iPhone11,iPhone11Pro,iPhone11ProMax , X,XR,XS,XS max รวมถึง iPhone 8 และ 8+ ต้องใช้สาย USB-C to Lightning เท่านั้น ถึงจะรองรับการชาร์จด่วนด้วย PD

2.Quick charge 3.0 – 4.0

คือเทคโนโลยีการชาร์จด่วน ที่ได้รับการพัฒนาจาก Qualcomm บริษัทจำหน่ายชิป และอุปกรณ์โทรศัพท์ ซึ่งตัวเลขด้านหลัง (3.0)  ได้บ่งบอกถึงพัฒนาการ ที่ถูกปรับปรุงมาแล้วถึง 3 รุ่น 

Qualcomm

ช่วงที่เปิดตัวมาแรกๆ เรียกได้ว่า Q.C.3.0 นวัตกรรมการชาร์จแบตเร็วที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง (ก่อนหน้าที่ PD จะออก) เร็วกว่าการชาร์จแบบเดิมๆ ถึง 4 เท่า ทั้งยังปรับความดันให้เหมาะสมกับแบตเตอรี่ ซึ่งต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ USB-A to USB-C หรือ USB-A to Micro USB เท่านั้น 

USB-A to Micro USB

ในปัจจุบัน แม้ว่าระบบการชาร์จแบบ Q.C. จะไม่ได้ยอกเยี่ยมยอดที่สุดอีกต่อไป แต่ทาง Qualcomm ก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ เปิดตัวเทคโนโลยี QC 4.0 ซึ่งออกแบบให้เพื่อนๆ สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยี PD เวอร์ชั่น 3.0 ได้  โดย Q.C. 3.0 และ Q.C. 4.0 จะมีแรงดันไฟอยู่ที่ 3.6V – 20V/ กำลังไฟ 2.5A – 4.6A  (สูงสุดไม่เกิน 27 วัตต์)

Snapdragon 660

CPU อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จแบตเร็วด้วย Q.C.

  • Quick Charge 3.0  รุ่นที่รองรับ Snapdragon 820 , 620 , 618 , 617 และ 430
  • Quick Charge 4.0  รุ่นที่รองรับ Snapdragon 630, 660, 835

3.Super Charge ของ Huawei

Huawei

ระบบการชาร์จที่ Huawei เป็นผู้คิดค้นเองทั้งหมด เริ่มใช้ตั้งแต่ Mate 9 และ Mate 9 Pro เป็นต้นมา ซึ่งเขาเคลมว่าค่อนข้างปลอดภัย ไม่ต้องกลัวระเบิดหรือมีปัญหา เนื่องจากมีระบบรับรองความปลอดภัยกว่า 5 จุด ซึ่งแต่ละจุดประกอบไปด้วย sensor 3 ตัว ได้แก่ ตัวป้องกันแรงดันไฟฟ้า ต้วป้องกันกระแสไฟ และตัววัดอุณหภูมิ รวมทั้งหมดเป็น 15 ขั้นตอน

Super Charge

Super Charge ของ Huawei จะมีแรงดันไฟอยู่ที่ 5V,2A / 4.5V,5A / 5V 4.5A

Super Charge

ข้อดีอีกอย่างของการชาร์จรูปแบบนี้ คือตัวเครื่องจะไม่ร้อนร้อนเท่ากับ PD หรือ Q.C. เพราะเขามีตัวช่วยที่ทำให้ การชาร์จไม่ต้องใช้ความดันสูง แต่จ่ายกระแสไฟได้มากขึ้น (แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความเร็วกันแล้ว Super Charge ของ Huawei ยังแอบด้อยกว่าอยู่หน่อยๆ)

4.VOOC Flash Charge ของ OPPO

VOOC Flash Charge

เรียกได้ว่า เป็นบริษัทแรกๆ ที่คิดค้นการชาร์จแบตเตอรี่เร็ว เล่าว่า “เพียง 5 นาที ก็คุยได้ 2 ชั่วโมง”  สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 5V 4A และ 5V 2A โดยต้องใช้อะแดปเตอร์ และสายไฟเฉพาะของ OPPO เท่านั้น

แต่แน่นอนว่าในช่วงเปิดตัวอาจเร็วและแรงเป็นอันดับต้น แต่ปัจจุบันคืออาจเทียบกันไม่ได้เลยกับ เทคโนโลยีแบบ PD

แหล่งที่มา 
https://www.quora.com/What-are-the-types-of-fast-charging-technologies 
https://specphone.com/web/fast-charge-and-quick-charge/194632 

มือใหม่ก็ถ่ายได้ 10 วิธีถ่ายรูปให้สวย คมชัดด้วย iPhone (2019)

0

“iPhone รุ่นเก่า ถ่ายภาพออกมายังไงสวย?” “รูปเบลอภาพไม่ชัด จับโฟกัสไม่ได้ แก้ด้วยวิธีไหน”

จัดการปัญหาเรื่องรูปๆ แบบไม่ต้องเสียเงินซื้อโทรศัพท์ใหม่ ด้วย 10 เทคนิค วิธีถ่ายภาพ จากกล้อง iPhone ให้ได้รูปสวย องค์ประกอบดี

1.เลือกฟีเจอร์บน iPhone ให้เหมาะกับสถานการณ์

อัพเกรดขึ้นมาอีกนิด สำหรับใครที่ชินกับการใช้ไอโฟนแล้ว จะเริ่มพอรู้ว่ามันมีลูกเล่นการถ่ายภาพที่หลากหลาย ทั้ง Panorama , Portrait , Night Mode , HDR , Deep funsion ฯลฯ ซึ่งการเลือกฟีเจอร์ที่แตกต่างกันนี้ จะทำภาพออกมาคนละอารมณ์ ดังนั้น ถ้าหากคิดจะเอาดีด้านการถ่ายรูปด้วย iPhone แล้ว ก็ต้องรู้จักเลือกรูปแบบที่เหมาะสมในการใช้งาน

2.ทำความสะอาดเลนกล้องโทรศัพท์ iPhone ทุกครั้ง

เป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ สำหรับคนเล่นกล้อง ที่ก่อน-หลังถ่ายภาพเสร็จ จะต้องเอาอุปกรณ์มาเช็ดล้างทำความสะอาด (อุ๊ย…พูดว่าล้างคงไม่ได้สินะ เพราะมันเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์) ปัดฝุ่นบ้าง เช็ดเลนส์ นู้นนี่นั่นกินเวลาไปหลายนาที 

แต่กลับกัน พอมาเป็นมือถือขนาดพกพก หลายๆ คนกลับมองข้างเรื่องพื้นฐานนี้ไป ลืมไปว่ามันก็คือเลนส์ประเภทหนึ่ง ที่สำคัญเปรอะง่ายกว่า!!! ต่อให้เป็นโทรศัพท์ iPhone รุ่น 200 ซูมเห็นเซลล์เม็ดเลือดแดง แต่ถ้าเลนส์มีฝุ่นจับเข้าให้แล้ว รับรองว่าไม่เหลือรอดชัวร์….

3.กดจับโฟกัสบนหน้าจอก่อนถ่ายรูป 

ถึง iPhone จะขึ้นชื่อว่าเป็นโทรศัพท์ชั้นยอด มีกล้องและระบบปฏิบัติการณ์ที่ล้ำสมัย ใช้งานง่าย แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะฉลาดไปเสียทุกเรื่อง ดูง่ายๆ อย่างการสะกดคำอัตโนมัติหรือ Asistant อย่างเจ้าสิริมงคล (นั่นไง!! พูดยังไม่ทันขาดคำ) ที่มัก “ป้ำๆเป๋อๆ” ดังนั้น เพื่อความมั่นใจ ให้เรากดจับโฟกัสบนหน้าจอโทรศัพท์ด้วยตนเอง จะดีกว่า

4.ใช้ AE/AF ในการ lock

อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญบนโทรศัพท์ iPhone สำหรับใช้ล็อกโฟกัสและแสง ทำให้องค์ประกอบของภาพหยุดนิ่ง ไม่ขยับหนีไปไหน ใครคิดไม่ออกว่ามันเป็นประโยชน์ยังไง ให้ลองนึกถึงตอนถ่ายรูป ที่ต้องกดโฟกัสบนหน้าจอหลายๆ ครั้ง เพื่อหาแสงที่พอเหมาะ แต่พอได้แล้วขณะกำลังจะลั่นชัตเตอร์ ปรากฏว่าโฟกัสหาย แสงเปลี่ยน!!! ซึ่งการ lock AE/AF จะทำให้ภาพโฟกัสอยู่กับที่ และ ได้แสงท่ต้องการ 

วิธีการ แตะหน้าจอค้างไว้ 1-2 วินาที บริเวณที่ต้องการ 
(ปล.สามารถปรับความสว่าง-มืดได้ ด้วยการเลื่อนนิ้วขึ้นลงแบบปกติ) 

5.เข้าไปถ่ายใกล้ๆ แทนการใช้ซูม

การซูมด้วยระบบดิจิตอล จะทำให้รูปที่ได้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ภาพแตก สีเพี้ยน ดังนั้นถ้าไม่สุดวิสัย เช่นการถ่ายภาพบุคคลหรือวัตถุ แนะนำว่าให้เราลงทุนเหนื่อยหน่อย ด้วยการเขยิบตัวเข้าไปถ่ายเอง รับรองว่าจะได้รูปที่คมชัดมากขึ้นแน่นอน

6.ใช้การถ่ายภาพต่อเนื่องเพื่อเก็บการเคลื่อนไหว

นับประสาอะไรกับเลนส์ปกติบนไอโฟน ขนาดกล้องดิจิตอลราคาหลักหมื่นที่เอาไว้ถ่ายรูป ยังจับภาพเคลื่อนไหวแทบไม่ทัน ต้องอาศัย 4k เป็นตัวช่วย คล้ายๆ กันกับ iPhone ที่มีฟีเจอร์สำหรับการจับภาพแนวนี้โดยเฉพาะ ด้วยการสาดชัตเตอร์รัวๆ กว่า 10 ครั้ง แล้วให้เพื่อนๆ มาเลือกทีหลังว่าถูกใจรูปไหนบ้าง

ไปที่ camera → รูปภาพ → ไอคอนรูปนาฬิกา → เลือกเวลาสำหรับนับถอยหลัง → จากนั้นก็ลั่นชัตเตอร์ได้เลย

7.ปรับแสงบนหน้าจอก่อนถ่ายรูป

แม้มือถือสมัยนี้ จะสามารถปรับแสงเองได้หลังจากถ่ายภาพเสร็จแล้ว แต่เชื่อเถอะ!!! มันไม่เวิร์คเท่ากับการเลือกแสงให้พอเหมาะจาก iPhone ตั้งแต่ต้น เพราะมันจะทำให้รูปออกมาดูกลมกลืน เป็นธรรมชาติมากกว่า

8.ถ้าเป็นรุ่นเก่า ลองใช้เลนส์เสริม

แน่นอนว่าใครที่ยังใช้ iPhone รุ่นเก่าๆ ซึ่งมีกล้องมือถือเลนส์เดียว ระบบประมวลผลและความคมชัดของรูปเพียวๆ อาจจะยังสู้กับ iPhone11 หรือ XS ไม่ได้ (ก็แหงละสิ เพราะมันล้าสมัยเกิ๊นนนน) เว้นแต่จะมีฝีมือนิดหน่อย บวกกับการใช้อุปกรณ์เสริม อย่างเลนส์พิเศษ ไม้เซลฟี ขาตั้งยึดโทรศัพท์ ฯลฯ ที่ช่วยทำให้ภาพชัด นิ่ง และสวยขึ้น 

9.เปิดเส้นตารางเพื่อกำหนดจุดสายตา

ข้อนี้เป็นอีกเคล็ดลับ ที่ทำให้รูปจากกล้อง iPhone ออกมาสวยและโดดเด่น (แม้ว่า Background ด้านหลังจะไม่น่ามองสักเท่าไร) เพราะเรากำลังเล่นกับจุดที่กำลังดึงดูดสายตา 

ตั้งค่า → กล้อง → เส้นตาราง

วิธีการ คือให้จัดวางวัตถุหรือบุคคลที่ต้องการนำเสนอ ตามแนวจุดตัดของเส้นตาราง (มีให้เลือก 4 มุม ไว้ตรงไหนก็ได้) แล้วเริ่มกดชัตเตอร์ได้เลย

10.ใช้ Lightroom เป็นตัวช่วยแต่งภาพ

ถ้าหากระบของ iPhone มันไม่ไหวแล้ว คงต้องพึ่งแอพสำหรับใช้ในการแต่งรูปเป็นทางออกสุดท้าย (จริงๆ ก็แต่งกันตลอดนั่นแหละ) ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือก 108 พันเก้า แต้ถ้าจะให้แนะนำละก็ Lightroom นี่เด็ดสุดๆ สามารถปรับแสง สี จัดองค์ประกอบภาพได้ตามต้องการ ที่สำคัญรีทัชได้ด้วย!!

2 แอปก็พอ แต่ง IG story ให้สวย-ปัง เพิ่มคนดู ดึงดูดคนกดไลก์

0

“หากพูดถึงแอปฯ ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ตอบ inbox ไวกว่า Line อัพรูปบ่อยกว่า Facebook เพื่อนๆ คิดว่ามันคืออะไร?”

คำตอบก็คือ…….… (ใครตอบไม่ได้แปลว่าเริ่มแก่แล้วนะฮะ)

คำตอบก็คือ……. (อาจจะไม่แก่แต่ก็ถือว่าตกเทรนด์อยู่พอตัว)

ก็คือ……. (จะพิมพ์ซ้ำทำไมเนี่ย!!! คนดูเขาอยากรู้แล้ว)

ถูกต้องนะครับ (ยังไม่เฉลยเลยพี่!!!)

คือ…… Instargram นั่นเอง!!! 

พูดมาถึงขนาดนี้ หลายคน (ที่อายุไม่เข้าพวก) คงจะร้องอ๋อกันออกมาเป็นเสียงเดียวกัน อาจจะด้วยวัยหรือไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ทำให้ไม่เคยเล่นกันจริงๆ แต่ก็น่าจะพอได้ยินชื่อผ่านหูกันมาบ้าง

เท้าความ เพื่อให้หลายๆ คนตามทัน ใน “IG” (ย่อมาจาก instargram) นี้ จะมีฟีเจอร์หนึ่งที่เรียกว่า IG Story เอาไว้อัพเดตเรื่องราวชีวิตประจำวัน ซึ่งจะถูกลบออกภายใน 24 ชม. ซึ่งมันค่อนข้างได้ความนิยมนิยมจากแฟนๆ  ทั่วโลก พูดได้ว่าดังเป็นพลุแตกภายในระยะเวลาไม่นานหลังเปิดตัว

แม้ปัจจุบัน IG Story จะถูกพัฒนาไปไกล จนแทบจำเค้าโครงตอนแรกไม่ได้ ทั้งฟิลเตอร์ ภาพ GIF (ไม่ใช่ของขวัญนะครับ) กล่องข้อความ โพลล์ ฯลฯ แต่เหมือนว่าตัวเลือกเพียงแค่นั้น ยังไม่พอที่จะสร้างความโดดเด่นให้ Account ของเราเป็นที่น่าจดจำ ต่างจากเพื่อนคนอื่นๆ

ในวันนี้แอดจึงอยากจะมาแนะนำ กับ 2 แอปฯตัวเลือกปังๆ สำหรับมือใหม่หัดเล่น (ไปจนถึงมือโปรสุดเก๋า) ใช้ในการแต่ง IG story ให้สวย โดดเด่น และน่าดึงดูด ที่สำคัญ…ไม่ต้องพึ่งความสามารถเยอะ

1.Story Art 

เป็นหนึ่งแอปฯฟรี สำหรับใครที่ต้องการตกแต่งภาพสำหรับขึ้น IG Story ในเบื้องต้น มีรูปแบบ template ที่ค่อนข้างตายตัว เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่ถนัดวิชาศิลปะ เรียกว่าเกือบไม่ต้องใช้สมองซีกขวา จะมีก็แต่ให้เลือกสีกับประดิษฐ์ข้อความเล็กๆ น้อยๆ สำหรับใช้ประกอบรูป

เขาอัปเดต template เป็นประจำ มีให้เลือกกว่า 100 แบบ ไม่ต้องกลัวซ้ำกันไปยาวๆ ยิ่งช่วงเทศกาลก็จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เราเสมอ

ใครที่เบื่อภาพนิ่งแล้ว Story Art เขาก็มี Animation สำหรับตกแต่งภาพให้ดูมี Movement ยิ่งขึ้น น่าดู น่าดึงดูดไปอีกแบบ

นอกจากนี้ยังมีรูปสวยๆ เอาไว้ขึ้นปกไฮไลท์ใน story ด้วย!!! พูดได้ว่า “แค่แอปฯนี้ตัวเดียวก็เพียงพอแล้ว สำหรับสร้าง IG Story ให้น่าดึงดูด” ก็คงไม่เกินเลยความเป็นจริงไป

ปล.สำหรับใครที่อยากได้ตัวเลือก IG Story มากขึ้น Story Art มีทั้งระบบเหมาจ่ายเป็นรายเดือนและปี รวมถึงแยกซื้อสำหรับบาง template โดยเฉพาะ ใครที่อยากรู้ว่ามันดีสมคำแอดเล่ารึเปล่า ก็อย่าลืมแวะเข้าไปโหลดกันมาลองใช้ดูกันนะ

ดาวน์โหลด
IOS : https://apps.apple.com/us/app/storyart-insta-story-maker/id1403688089 
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.ryzenrise.storyart&hl=th 

2.Mojo

อีกหนึ่งแอปฯ ฟรี สำหรับการตกแต่ง IG Story โดยเฉพาะ แต่จุดเด่นของมันที่ทำให้แตกต่างจาก Story Art คือ เน้นไปที่การ Animation เพียงอย่างเดียว template ของมันจึงดูไม่จืดชื่นและมีลูกเล่น เหมาะกับกับคนที่ชอบ Fashion จ๋าๆ ไปจนถึง Minimal สไตล์

ใครที่เป็นคนหัวศิลป์ น่าจะชอบแอปนี้มากกว่า เพราะเปิดโอการให้แต่งนู้นเติมนี้ได้แบบไม่มีขีดจำกัด ตัวเลือกแบบกำหนดเองเยอะ ที่สำคัญสามารถเพิ่มเพลง รูป ฯลฯ จากไฟลน์ภายในโทรศัพท์ เป็น background พื้นหลังเองได้เองได้ (Story Art ทำไม่ได้)

มีเพลงประกอบให้เลือกหลากหลายหมวด แต่ละหมวดประกอบไปด้วย 3-4 เพลง

จัด Layout วางองค์ประกอบของรูปได้

พื้นหลังมีให้เลือก แต่ถ้าไม่ถูกใจก็ดึงรูปหรือวีดีโอจากในเครื่องลงแทนเลย

ตัวอย่าง (ใช้เวลาสร้างไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จ)

เท่านี้ก็ได้ story เคลื่อนไหวในแบบที่เราต้องการแล้ว แน่นอนว่าแอปฯฟรีอย่างนี้ เขาต้องมีระบบสมาชิกรายเดือนและปีแน่นนอน ใครที่เป็นคอ IG Story บอกเลยไม่ควรพลาดจริงๆ

ดาวน์โหลด
IOS : https://apps.apple.com/th/app/mojo-story-maker-for-instagram/id1434861974 
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=video.mojo 

จบกันไปแล้วนะครับกับ 2 แอปฯ ดีๆ ที่จะเปลี่ยน Story บน IG ให้กลายเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำ (เอาไปประยุกต์กับ facebook ได้) สำหรับเจ้าแม่ IG คนไหน ที่ยังไม่มีติดไว้ในเครื่อง ขอย้ำอีกครั้งว่าให้รีบไปโหลดมาใช้ให้ไว