เชื่อว่าหลายคนๆคนที่ใช้ ไอโฟน ใช้ iOS11 ขึ้นไปอยู่ iOS นี้มีอะไรเปลี่ยนไปเยอะมาก และแอดมินก็อยากจะแนะนำการตั้งค่า Setting iPhone ที่พลาดไม่ได้เลยครับ เพราะมันจะทำให้เรามีความส่วนตัวปลอดภัยมากขึ้น และที่สำคัญประหยัดแบตขึ้นเยอะด้วยนะ แต่จะมีวิธีอะไรบ้างนั้นไปดูพร้อมกันได้เลย 🙂
**สำหรับท่านที่ไม่ชอบอ่านเยอะแอดมินแนะนำ ให้ตั้งค่าตาม ตามข้อที่ 1-6, 10 และ 12 ครับ
วิธีที่ 1 การปิดรับโฆษณาจากทาง Apple หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า อ่าวเราจะปิดทำไมหละคือการที่เราปิดอันนี้ไปเราอาจจะได้รับโฆษณาจาก Apple ตามเดิมแต่จะเป็นการหยุดการส่งข้อมูลส่วนตัวในการใช้งานของเราให้ทาง Apple ครับ ทำได้โดยเข้าไปที่ Setting เลือกไปที่ Privacy แล้วเลื่อนลงมาล่างสุดจะมี Advertising ให้กดเป็น on (แถบสีเขียว) แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวจริงๆ ครับ
วิธีที่ 2 หยุดการส่งข้อมูลการใช้งานของเราให้กับ Apple หลายๆ คนคงจะงงกันว่า ฮะมันคืออะไรกันจะเป็นการต่อยอดมาจากวิธีที่ 1 เลยครับ ทำได้โดยกดที่ Setting เลือกไปที่ Privacy แล้วเลื่อนลงมาด้านล่างจะมี Analytic ให้เรากดเข้าไปจะเจอคำว่า Share iPhone Analytics ให้เราทำการปิดลงครับเลื่อนให้เป็นแถบสีขาว เท่านี้ก็จะไม่เกิดการส่งข้อมูลการใช้งานของเราให้กับทาง Apple อีกต่อไป สายคนชอบความส่วนตัวทำได้เลยครับ
วิธีที่ 3-4 ปิดการใช้ Location ที่เกี่ยวข้องกับ Apple ยังต่อเนื่องกันกับการรักษาสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของเราเองครับทำได้โดย Setting เลือกไปที่ Privacy เลือกไปที่ Location Service เลือกไปที่ System Service แล้วเลือกปิด Location-Based Apple Ads ให้เป็นสีขาว แล้วเลื่อลงมาด้านล่างตรง Product Improvement ให้ปิดทั้ง 3 ช่องที่เป็น on อยู่ให้เป็นสีขาว ให้หมดครับ แค่นี้ Apple ก็จะไม่สามารถได้ข้อมูล Location ของเราอีกต่อไปครับ
วิธีที่ 5 ปิดการขึ้นให้เรากด Review เกี่ยวกับ App นั้นๆ ขณะใช้งาน ในการใช้งานหลายๆ App มักจะมีให้เรากดรีวิวให้ใช่ไม๊ครับซึ่งบางทีอาจจะเป็นการรบกวนหรือทำให้เสียเวลาซึ่งเราสามารถปิดมันได้ครับ เข้าไปที่ Setting เลือกไปที่ iTunes & App Stores เลื่อนลงมาแล้วเลือกไปที่ In-App Ratings & Reviews เลื่อนปิดให้เป็นแถบสีขาว แค่นี้เรื่องนี้ก็จะไม่มากวนใจเราอีกต่อไป
วิธีที่ 6 ปิด Video Autoplay กดเข้าไปที่ setting ตามด้วยเข้าไปที่ iTunes & App Stores แล้วเลือกไปที่ Video Autoplay แล้วเข้าไปเลือกให้เป็น off ครับแค่นี้ iPhone ของคุณก็จะไม่เล่นวีดีโออัตโนมัติใน Facebook , IG รวมไปถึงใน App Stores ให้คุณต้องเปลืองเน็ตของคุณอีกต่อไป ถ้าอยากจะดูวีดีโออันไหนกดเข้าไปดูมันถึงจะเล่นครับง่ายนิดเดียว หรือจะตั้งให้เป็น only Wi-Fi ก็ได้ครับวีดีโอจะเล่นเองต่อเมื่อมี Wifi จะเลือกแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลย
วิธีที่ 7 การตั้ง Passcode เรื่องนี้หลายๆ คนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วนะครับ เพราะทุกคนก็คงไม่อยากใหใครมาเช็กหรือยุ่งกับมือถือของเราการตั้ง Passcode ก็จะทำให้คนอื่นเข้าถึงเครื่องของเรายากขึ้น แต่ที่ทุกคนอาจไม่รู้กันคือเราสามารถตั้ง Passcode ได้มากกว่า 4 หรือ 6 ตัวหรือเป็นตัวอักษรก็ยัวทำได้เลย โดยทำได้ดังนี้ครับเข้าไปที่ Setting เลือก Touch ID & Passcode เลือกไปที่ Change Passcode พอทำการกรอกรหัสเก่าลงไปจะขึ้นหน้าให้เปลี่ยนรหัสใหม่จะมีคำว่า Passcode Options ให้กดตรงนี้เลยครับโดยจะมีให้เลือกอีก 3 อัน ใครอยากตั้งง่ายๆ กดอันล่างสุดจะเป็นการตั้งแบบตัวเลข 4 ตัว อันกลางจะยากขึ้นมาหน่อยที่เราสามารถตั้งเป็นตัวเลขจำนวนกี่ตัวก็ได้ ส่วนอันบนสุดเราจะสามารถตั้งเป็นตัวอักษรและตัวเลขรวมกันกี่ตัวก็ได้ครับ ต่อจากนี้ไปทุกคนคงมีรหัสส่วนตัวที่ดีกว่าเมื่อก่อนใช้กันแล้วนะ
วิธีที่ 8 ปิดการใส่รหัสสำหรับการใช้งานในหน้า Lock Screen ข้อนี้จะเกี่ยวกับข้อก่อนนิดหน่อยครับโดยเราเข้า Setting กดไปที่ Touch ID & Passcode แล้วเลื่อนลงมาด้านล่างๆ จะเจอกับ Allow Access When Locked อยู่ครับเราสามารถเลือกอันที่เราต้องการให้เป็น off ได้เพื่อง่ายต่อการใช้งานในหน้า Lock Screen ครับจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาใส่รหัสหรือสแกนนิ้วเพื่อใช้งานฟังก์ชันนั้นๆ เลยประหยัดเวลาได้พอสมควรเลย
วิธีที่ 9 ตั้งรหัสอีกชั้นสำหรับ Apple ID การทำแบบนี้จะทำให้คนอื่นไม่สามารถเอา Apple ID ของเราไปใช้ได้ครับแม้จะรู้รหัสของเราก็ตามโดยถ้ามีคนอื่นใช้รหัสของเราในการโหลด App หรือทำอะไรก็ตามจะมีขึ้นให้ใส่ Code ขึ้นมาซึ่ง Code นั้นจะถูกส่งเข้ามาที่มือถือของเราครับที่ทำการ Sync กับเบอร์โทรศัพท์ของเราเอาไว้ (คือส่งเข้าเบอร์ของเราอะแหละ) ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากๆ และควรทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของเราเองครับ ทำได้โดย Setting ให้เรากดบริเวณชื่อของราด้านบนที่เป็น Apple ID แล้วกดไปที่ Password & Security แล้วเช็กว่าตรง Two-Factor Authentication ของเราให้เป็น on แล้วใส่เบอร์มือถือของเราตามลงไปแค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว
วิธีที่ 10 การปรับเวลา Auto-Lock หน้าจอ วิธีนี้ทุกคนน่าจะคุ้ยเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วนะครับทำได้โดยเข้าไปที่ Setting เลือกไปที่ Display & Brightness แล้วเลือกตรง Auto-Lock แล้วเลือกว่าที่จะล๊อกจอตามที่ต้องการได้เลยครับเพื่อเป็นการประหยัดแบตด้วย แนะนำให้ตั้ง 1 นาทีขึ้นไปครับ เพราะถ้าตั้ง 30 วิ ตอน 20 วิหน้าจอจะหรี่แสงแล้ว อ่านอะไรนิดหน่อย จอก็มืดไปแล้ว คนที่ชอบเผลอลืมปิดจอมือถือไม่ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งเป็น never นะครับเพราะถ้าลืมมือถือไว้แล้วหายไปนี่สบายโจรเลยนะ
วิธีที่ 11 การตั้งเวลา Night Shift หลายๆ คนคงน่าจะเปิดใช้กันในตอนกลางคืนที่นอนเล่นมือถือปิดไฟบนเตียงกันใช่ไม๊หละครับโดยเจ้าโหมดนี้เนี่ยจะช่วยกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอโดยเปลี่ยนเป็นแสงสีส้มที่สบายตาแทนทำให้ช่วยถนอมสายตาของเราได้ โดยเราสามารถปรับเวลาเปิดปิดโหมดนี้ได้ครับ เข้าไปที่ Setting เลือกไปที่ Display & Brightness แล้วเลือกไปที่ Schedule ครับเปิดให้เป็น on (จะขึ้นเป็นแถบสีเขียว) แล้วกดด้านล่างที่มีคำว่า From และ To สามารถตั้งเวลาเปิดปิดได้ตามใจชอบเลยครับผม
วิธีที่ 12 ตั้งค่า Last Location ของ Find My iPhone อันนี้เหมาะกับบางท่านที่ชอบทำมือถือแบตหมด แล้วหาไม่เจอบ่อยๆ การตั้งแบบนี้จะทำให้เผื่อเราทำโทรศัพท์หายหรือลืมไว้ที่ไหนเราจะรู้ได้ว่าสถานที่สุด ท้ายที่โทรศัพท์เราอยู่ก่อนแบตจะหมด หรือปิดเครื่อง อยู่ที่ไหน ซึ่งจะทำให้เราหามือถือเจอได้ง่ายขึ้นครับ ทำได้โดยใน Setting ให้เรากดบริเวณชื่อของราด้านบนที่เป็น Apple ID แล้วกดไปที่ iCloud แล้วเลื่อนลงไปหา Find My iPhone เข้าไปแล้วกดเลื่อนตรง Share Last Location ให้เป็น on (เป็นแถบสีเขียว) ขึ้นครับ
วิธีที่ 13 เช็กปริมาณเน็ตที่เสียไปขณะ Wifi สัญญาณต่ำได้ ปกติเวลาสัญญาณ Wifi ของเราต่ำๆ แต่ยังสามารถดูวีดีโอต่อไป หรือไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ก็ตามเราอาจจะไม่เคยรู้เลยว่ามือถือของเราได้นำเน็ตที่มาจาก 3G/4G ของเรามาใช้แทนครับซึ่งเราสามารถเช็กได้ว่าใช้ไปขนาดไหนหรือจะกดปิดเพื่อไม่ให้ใช้เน็ตจาก 3G/4G ของเรา โดยทำได้ได้ดังนี้ครับ เข้าไปที่ Setting เลือกไปที่ Mobile Data เลื่อนลงมาด้านล่างจะเจอกับ Wi-Fi Assist ครับ ที่จะบอกถึงปริมาณเน็ตที่เราใช้ไป สำหรับใครที่ไม่ต้องการให้มันใช้เน็ตจาก 3G/4G ของเราก็สามารถเลือกที่จะปิดได้ครับเลื่อนไปที่ off (แถบจะเป็นสีขาว) เพียงแค่นี้ก็จะไม่มากินเน็ตของเราอีกต่อไปครับ
เป็นไงกันบ้างครับกับทั้ง 13 วิธี Setting iPhone ที่เรานำมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้กันใครคิดว่าอันไหนดีหรือมีประโยชน์ก็สามารถนำไปทำตามกันได้เลย และเชื่อเลยว่ามีหลายๆ อันที่อาจจะพึ่งมารู้กันว่ามันทำแบบนี้ำด้ด้วยหรอ ฮ่า ฮ่า ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการใช้ iPhone ของทุกท่านครับ 😀
cr. ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก youtube.com :3