รวมเทคนิค 36 วิธีใช้ไอโฟน แบบมือโปรฯ (2019)

0
9248
ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์
(Last Updated On: November 21, 2019)

นอกจากจะมีดีเรื่องกล้องและดีไซน์ โทรศัพท์ iPhone ยังขึ้นชื่อเรื่องของประสบการณ์การใช้งานจริง ที่ต่อให้คนที่บอกว่าเกลียดได้ลองใช้งาน ร้อยละ 80-90 ก็คงจะติดใจ ไม่อยากวางมันลงและกลับบ้านไปมือเปล่าๆ (ยิ่งรุ่น 11 ที่ราคาถูกลง แถมมีสีงามๆ เตะตาด้วยนะ)

ขยายความให้อีกนิดเผื่อหลายคนจะยังไม่เข้าใจ เนื่องจาก Apple รู้ดีว่าสมัยนี้ อะไรๆ ก็พัฒนารวดเร็วไปหมดไม่เว้นแต่เทคโนโลยี (สมัย 10 ปีที่แล้วยังใช้ปุ่มกดกันอยู่เลย) ดังทีมผู้พัฒนา จึงแอบใส่ลูกเล่นและเทคนิคไว้ร้อยแปดพันเก้าแบบ ให้เข้ากับการใช้งานขอเพื่อนๆ แต่ละกลุ่ม จนแอดสามารถพูดได้เต็มปากว่า ไอโฟน เป็นโทรศัพท์มือถือกึ่งเฉพาะบุคคลแบรนด์แรกๆ ของโลก

ซึ่งวันนี้แอดจะพามาดูกันว่า ลูกเล่นเล็กๆ แต่ไม่น้อย 36 วิธี ที่ทาง Apple จัดเต็มมาให้บน iPhone มีอะไรกันบ้าง………..

  1. เร่งความเร็วบน iPhone รุ่นเก่า
  2. วิธีใช้งาน Dark Mode
  3. เพิ่มความปลอดภัยในการเข้ารหัส
  4. แก้ไขข้อความตอบกลับเฉพาะบุคคล เมื่อรับสายไม่ได้
  5. แจ้งเตือนภายหลังเมื่อมีสายเรียกเข้า
  6. เปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุก และ Ringtones บนไอโฟนเป็นเพลงด้วย iTune
  7. ตั้งค่าการสั่นแจ้งเตือนเฉพาะบุคคล แบบกำหนดเอง
  8. ปรับแต่งปุ่มศูนย์ควบคุม Control Centre 
  9. ปรับแต่ง Animoji ให้เข้ากับตัวเอง
  10. ประหยัดแบตเตอรี่ด้วยโหมดพลังงานต่ำ (Low Power Mode)
  11. เพิ่มการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานยิ่งขึ้น
  12. ยกเลิกข้อความง่ายๆ แค่เขย่า
  13. แตะสองครั้งเพื่อเลื่อนขึ้นไปด้านบน
  14. ตั้งค่าโหมดห้ามรบกวน (do not disturb)
  15. กดถ่ายรูปขณะอัดวิดีโอ
  16. ถ้ายรูปหน้าชัดหลังละลายแบบมือโปรด้วย Portrait lightning
  17. เปลี่ยนมุมกล้อง Panorama 
  18. ถ่าย selfie แบบชัดแจ๋ว
  19. ควบคุมการใช้โทรศัพท์ของน้องๆ
  20. หยุดอาการมือติด iPhone
  21. พิมพ์สัญลักษณ์ด้วยปุ่มลัด
  22. ตั้งค่าคีย์บอร์ดมือเดียว
  23. แทนที่อักษรย่อด้วยระบบอัตโนมัติ
  24. Auto fill ไม่ต้องใส่ Password , ที่อยู่ , ข้อมูล ฯลฯ
  25. เปิดพจนานุกรมภายในเครื่อง
  26. จัดการให้ข้อความโดดเด่น
  27. ลบตัวเลขบนเครื่องคิดเลขแบบเร่งด่วน
  28. หยุดเล่นเพลงด้วย Timer
  29. ค้นหาคำและประโยคที่ต้องการบนเว็บไซต์
  30. ให้ AirPods เป็นเครื่องช่วยฟัง
  31. เก็บเว็บไซต์ไว้อ่านเป็นหนังสือ
  32. ให้ Siri คิดเลขแทน
  33. สร้างคีย์ลัดสำหรับการใช้งาน
  34. วัดขนาดวัตถุด้วยโปรแกรมบนโทรศัพท์
  35. วิธีเปิดโหมด Night Shift  ในเวลากลางคืน
  36. ตั้งค่า iPhone อ่านออกเสียงข้อความให้ฟัง

เร่งความเร็วบน iPhone รุ่นเก่า


อิเล็กทรอนิกส์ก็ยังเป็นอิเล็กทรอนิกส์ ยิ่งใช้มานานโอกาสที่อุปกรณ์ภายในจะเสื่อมยิ่งสูง แอปไม่ได้ใช้ ไฟล์เก่าๆ ก็ตกค้าง ทำให้เครื่องประมวลผลช้า ค้าง และเด้งหลุดเป็นประจำ 

ดังนั้นเราจึงต้องมีการปัดฝุ่นมือถือกันบ้าง เพื่อ Boost iPhone เครื่องเก่า ให้กลับมาเร็วและแรงเหมือนเดิม

  1. ปิดและเปิดไอโฟนใหม่อีกครั้ง เพื่อ clear ความจำของเครื่องที่ไม่ใช้งาน
  2. ลบแอป ไฟล์ หรือรูป ที่ไม่จำเป็นออกจากโทรศัพท์ แล้วทำการ backup ไว้ที่ PC หรือ iCloud แทน
  3. อัปเดต version iOS
ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์

วิธีใช้งาน Dark Mode


ถึงจะรู้กันอยู่แล้ว แต่แอดก็อยากจะย้ำอีกครั้ง เนื่องจากมีคนถามเข้ามากันมาไม่น้อย ว่าทำไมโทรศัพท์ จึงเปิด Dark Mode ไม่ได้ ? ต้องเข้าใจกันก่อนว่า ฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้กับ iPhone ที่มี iOS13 เป็นต้นไป (รุ่นหลัง SE เท่านั้น) โดยการเข้าไปที่

  • ตั้งค่า (setting) → จอภาพและความสว่าง (Display & Brightness) → แตะเลือกรูปแบบหน้าจอที่ต้องการให้ระบบแสดงผล สว่าง (ปกติ) หรือ มืด (Dark Mode)

หรือ

  • ไปที่ปุ่มลัดบนหน้าจอ → แตะที่ศูนย์ควบคุม → แตะค้าง 1-2 วินาที ที่ icon ดวงอาทิตย์สำหรับเพิ่มและลดแสงหน้าจอ → เลือก Mode ที่ต้องการ

เพิ่มความปลอดภัยในการเข้ารหัส


แน่นอนว่าปัจจุปัน เพื่อนๆ สามารถปลดล็อคโทรศัพท์ด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า แต่มันจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อไม่มีใครรู้รหัส (โดยเฉพาะเหล่าแฟนๆ ทั้งหลาย)

ถ้ายังจำกันได้ สำหรับใครที่เคยใช้ iPhone ตั้งแต่รุ่นแรกๆ เราจะเข้ารหัสเครื่องด้วยตัวเลขเพียง 4 ตัวเท่านั้น ซึ่งภายหลังก็เพิ่มมาให้อีก 2 รวมแล้วกลายเป็น 6 ตัว ทำให้อุ่นใจขึ้นอีกนิด

แต่ถ้าจะเอาให้ชัวร์ที่สุด การใส่ตัวเลขเพียง 6 ตัว ออกจะดูปลอดภัยต่ำไปเลย เมื่อเทียบกับการใส่รหัสปนกับกับตัวอักษร แบบที่เรียกกันว่า Alphanumeric code ที่ทาง Apple ออกแบบไว้ สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด

วิธีเปลี่ยนรหัส 4-6 ตัว เป็น Alphanumeric code

  1. ไปที่ตั้งค่า (settings)
  2. Touch ID และรหัส → แตะไปที่เปลี่ยนรหัส
  3. เมื่อถึงขั้นตอนตั้งรหัสใหม่ จะปรากฏตัวอักษรบริเวณกลางหน้าจอ  “ตัวเลือกรหัส (Passcode Options)” ให้แตะแล้วเลือกเป็น “กำหนดรหัสตัวอักษรและตัวเลขเอง (Custom Alphanumeric Code)”
  4. ใส่รหัสตัวอักษรและตัวเลขที่ต้องการลง (เอาให้จำได้ด้วยนะจ๊ะ)

แก้ไขข้อความตอบกลับเฉพาะบุคคล เมื่อรับสายไม่ได้


เวลาเล่นเกม เข้าห้องน้ำ ออกเดท ประชุม หรือแม้แต่กำลังจะนอน มักมีสายเรียกเข้าทุกทีไม่รู้ทำไม? แต่จะให้หยิบมือถือขึ้นมาแชท หรือโทรกลับทันทีก็ยังไม่ใช่เวลา 

Apple เลยเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ สามารถตอบกลับเบอร์โทรที่ยังไม่รับด้วย Message ด้านขวาล่างเมื่อมีสายเข้า ซึ่งปกติแล้วจะมี 3 ข้อความเบื้อนต้นเป็นตัวยืนพื้น ได้แก่ “ขอโทษด้วย ฉันยังไม่สะดวกคุยตอนนี้” “กำลังไป” และ “เดี๋ยวโทรกลับ”

แต่รู้หรือไม่ว่าเพื่อนๆ สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อความเหล่านี้ ให้เป็นแบบฉบับของตัวเองได้โดย…

  • ตั้งค่า → โทรศัพท์ → ตอบกลับเป็นข้อความ

เท่านี้เพื่อนๆ ก็จะสามารถอธิบายเหตุผลของการไม่รับสายได้ละเอียดขึ้น มากกว่าการบอกว่าเดี๋ยวโทรกลับ หรือกำลังไป

แจ้งเตือนภายหลังเมื่อมีสายเรียกเข้า


เมื่อมีสายเรียกเข้าแต่ยังไม่สะดวกรับ เพื่อนๆ สามารถให้มือถือแจ้งเตือนภายหลัง เพื่อที่จะไม่ลืมโทรกลับได้ง่ายๆ ด้วยการแตะที่ข้อความ “เตือนฉัน” ขณะที่สายเรียกเข้ากำลังดังอยู่ 

ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์

ปล.ถ้าเพื่อนๆ update ตำแหน่งที่ตั้งของตัวเองให้เป็นปัจจุบัน ระบบจะสามารถส่งแจ้งเตือเมื่อเดินทางไปถึงสถานที่ต่างๆ

เปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุก และ Ringtones บนไอโฟนด้วย iTune 


“เบื่อแล้ว…สายเรียกเข้าไหนๆ ก็ซ้ำกับคนอื่นๆ” รู้รึเปล่าว่าเพื่อนๆ สามารถสร้างเสียงเรียกเข้า หรือเสียงนาฬิกาปลุกจาก track เพลงต่างๆ บน iTune ด้วยตัวเอง!!! (จำกัดไว้แค่ 30 วินาที) ผ่านการใช้ pc เป็นตัวแปลงไฟล์จาก .m4a เป็น .m4r แล้ว import เข้า iPhone อีกครั้ง 

วิธีการแบบละเอียดยิบ
https://www.macworld.co.uk/how-to/iphone/custom-iphone-ringtone-3635061/

หรืออีกทางหนึ่ง สำหรับใครที่อยากสร้างสรรค์เสียงเรียกเข้าของตัวเอง ก็สามารถใช้แอปฯ GarageBand เป็นตัว Design ทำนองได้ด้วยเหมือนกัน

ตั้งค่าการสั่นแจ้งเตือนเฉพาะบุคคล แบบกำหนดเอง


อยากรู้มั้ยว่าใครกำลังโทรมาโดยไม่ต้องยกโทรศัพท์หู? นอกเพื่อนๆ จะกำหนดเสียง Ringtone เฉพาะคนรู้ใจได้แล้ว ยังสามารถกำหนดรูปแบบการสั่นเฉพาะบุคคลเวลามีสายเรียกเข้า

  1. เปิดหน้ารายชื่อที่ต้องการ
  2. แตะ“แก้ไข” ที่มุมขวาบน
  3. เลือก “เสียงเรียกเข้า” และไปที่ “การสั่น”

ปล.สามารถสร้างการสั่นในแบบของตัวเองได้ ด้วยเข้าแตะไปในส่วน ”กำหนดเอง” 

ปรับแต่งปุ่มศูนย์ควบคุม Control Centre (สีเหลี่ยมๆ ที่วิ่งไปมาบนหน้าจอ)


ใช้กันมาตั้งนาน แอดก็พึ่งรู้ว่าเจ้าปุ่มลัดอย่าง Control Centre สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ โดยการไปที่

  • ตั้งค่า (settings) → ศูนย์ควบคุม (Control Centre) → กำหนดรูปแบบเอง (Customise Controls)

อันไหนที่เพื่อนๆ กำลังใช้อยู่จะปรากฏในส่วนบน มีเครื่องหมายลบสีแดงอยู่ด้านหน้า สำหรับลบออก ส่วนรายการอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มเข้ามา จะอยู่ด้านล่างโดยมีเครื่องหมายบวกสีเขียวกำกับไว้

  • ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์
  • ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์
  • ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์
  • ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์

ปรับแต่ง Animoji ให้เข้ากับตัวเอง


ใครที่มี iPhone ตั้งแต่ X-series เป็นต้นไป จะทราบกันดีว่า มันสามารถจับภาพใบหน้าให้กลายเป็นรูปสัตว์ลายเส้นน่ารัก แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า มันมีอีกหนึ่งฟีเจอร์ ที่สามารถอวตารหน้าของเราให้กลายเป็นซุปตาร์คนดัง!!! i”

ส่วน How to ก็ไม่มีอะไรยาก เพียงเพื่อนๆ เลื่อนไปฝั่งซ้ายสุดของหน้าต่าง Animoji ก็จะปรากฏกรอบสีเหลี่ยมพร้อมระบุว่า “New Memoji”  ให้เพื่อนๆ แตะไปที่มันหนึ่งครั้ง ระบบก็จะแสดง Animoji มาให้เลือกมากมาย

ประหยัดแบตเตอรี่ด้วยโหมดพลังงานต่ำ (Low Power Mode)


ทุกๆ ครั้งที่แบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% iPhone จะส่งแจ้งเตือนให้เพื่อนๆ ปรับเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน เพื่อยืดอายุการใช้งานโทรศัพท์ไปอีกนิด จนกว่าได้ชาร์จไฟใหม่ แต่ทั้งนี้มันก็ไม่จำเป็นเสมอไป ที่จะต้องรอให้แบตฯ เหลือน้อยเสียก่อนถึงจะใช้งาน เราสามารถเริ่มต้นประหยัดพลังงานได้เลยทันที

  • ตั้งค่า (Settings) → แบตเตอรี่ (Battery) → โหมดพลังงานต่ำ (Low Power Mode)

อธิบายเพิ่มนิดหน่อย สำหรับใครที่ยังสงสัย ว่าเจ้า Low Power Mode จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างไร? ฟีเจอร์นี้จะไปลดการทำงานของแอปบางประเภท รวมไปถึงการแจ้งเตือน หน้าจอดับเร็วขึ้น และปิดการทำงานเบื้องหลังของ siri

เพิ่มการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานยิ่งขึ้น


แบตฯหมดไวแบบไม่รู้สาเหตุ? เพื่อนๆ สามารถเข้าไปเช็คการใช้งานของแบตฯ ว่าวันๆ หนึ่งหมดไปกับอะไรบ้าง มีฟีเจอร์ไหนที่กินไฟ หรือถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะเปลี่ยนแบตฯใหม่ ทำให้เราสามารถเลี่ยงการใช้งานที่ไม่จำเป็นออก ทั้งยังช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่

  1. ไปที่ตั้งค่า (Settings) → แบตเตอรี่ (Battery)
  2. เลื่อนลงมาด้านล่างเพื่อวิเคราะห์ย้อนหลังการใช้งาน 1-10 วัน ซึ่งจะปราฏแอปที่กินไฟมากที่สุดตามลำดับมากไปน้อย

ปล.บางแอปเปิดไว้แต่ไม่ได้เล่นก็กินแบตฯนะจ๊ะ ทางที่ดีควร clear ออกจากเบื้อหลังด้วย

ยกเลิกข้อความง่ายๆ แค่เขย่า


ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์

สงสัยอยู่ใช่ไหม? เวลามีข้อความประหลาดๆ เด้งมาให้กดยกเลิกเวลาพิมพ์แชท หรือจดโน้ตบนมือถือ ซึ่งบอกไว้ก่อนว่า มันไม่ใช่ความผิดพลาดของตัวโปรแกรมแต่อย่างใด แต่เป็นฟีเจอร์ที่ทางผู้พัฒนาใส่มาให้ เผื่อเพื่อนๆ บังเอิญมือลั่นไปกดโดนแป้งพิมพ์บนหน้าจอค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง (แบบนี้) ….แค่ทำการเขย่าโทรศัพท์เบาๆ มันก็จะขึ้นตัวเลือกให้ยกเลิกข้อความแบบง่ายๆ ในทันที

แตะสองครั้งเพื่อเลื่อนขึ้นไปด้านบน


ถ้าเบื่อที่จะเลื่อนกลับขึ้นไปอ่านหัวเรื่องบนเว็ปไซต์ หรืออยากจะรีบดูอีเมล์ฉบับปัจจุบันที่เพิ่งส่งมาเมื่อ 1 นาทีก่อน หลังจากที่อยู่ด้านล่างสุดของเพจ ให้เพื่อนๆ แตะไปที่ด้านบนของหน้าจอโทรศัพท์สองครั้ง ระบบจะพาไปยังหัวเรื่องที่อยู่ข้างบนสุดทั้นที

นอกจากเว็ปไซต์และโน้ต เพื่อนๆ ยังสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ร่วมกับตัวแอปอื่นๆ แต่โดยส่วนมากแล้วทางทีมผู้พัฒนา จะวางให้มีการแจ้งเตือนอีกครั้ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการกดผิดพลาด

ตั้งค่าโหมดห้ามรบกวน (do not disturb)


ตัดปัญหาเสียงรบกวนเวลานอนและทำงาน ด้วยโหมด Do not disturb เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความสุขขณะหลับ

โดยเพื่อนๆ สามารถเปิดใช้งานเจ้าฟีเจอร์นี้ ด้วยการแตะไปที่ไอคอนรูปพระจันทร์ จากปุ่ม control center ซึ่งสามารถสังเกตการทำงานของมันได้จากไอคอน ที่ปรากฏอยู่มุมบนขวาของหน้าจอโทรศัพท์

  • หรือ ไปที่ตั้งค่า (Settings) → ห้ามรบกวน (do not disturb)

ข้อมูลเพิ่มเติม การเข้าใช้ Feature นี้ จะทำให้เราไม่ได้รับการแจ้งเตือน และเสียงเรียกเข้าใดๆ ขณะที่กำลังล็อกหน้าจอ (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า)

เทคนิค เพื่อนๆ สามารถกำหนดรายชื่อคนสำคัญ ให้สามารถติดต่อเราได้ขณะที่ใช้งานโหมดนี้อยู่ รวมทั้งจำกัดเวลาการเปิด-ปิดให้เป็นไปตามความต้องการ

กดถ่ายรูปขณะอัดวิดีโอ


“อัดวิดีโออยู่ดีๆ เกิดอารมณ์อยากถ่ายรูปขึ้นมา แต่ก๋ไม่อยากให้คลิปหยุดเล่น !!!“

ปัญหานี้แก้ง่ายๆ ด้วยการแตะที่ปุ่มกลมๆ สีขาวขณะที่เรากำลังอัดวีดีโอ (ลักษณะเดียวกันกับปุ่มชัตเตอร์เวลากดถ่ายรูปบนมือถือ) ซึ่งมักจะอยู่ที่ด้านใดด้านหนึ่งของมุมหน้าจอ

ปล.สำหรับการถ่ายรูปโดยวิธีนี้ เพื่อนๆ จะได้รูปที่คมชัดน้อยกว่าการใช้ฟีเจอร์กล้องโดยตรง เนื่องจากระบบจะจับภาพด้วยเซ็นเซอร์ของกล้องวิดีโอแทน แต่อย่างน้อยก็ไม่พลาดโมเมนต์สำคัญน่ะ

ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์

Portrait lightning


ไม่ใช่ลูกเล่นใหม่อะไร แต่จะให้ข้ามไปเลยก็ยังเสียดายอยู่ สำหรับใครที่ใช้ iPhone 8 Plus เป็นต้นไป จะสามารถใช้ฟีเจอร์ Portrait lightning (หน้าชัดหลังละลาย) ภายในกล้อง ซึ่งช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น

เพื่อนๆ สามารถเข้าใช้งานฟีเจอร์นี้ ด้วยการไปที่ Camera แอป แล้วเลื่อนเปลี่ยนโหมดจากเมนูด่านล่างของมือถือ ให้เป็นแบบ Protrait Mode

เมื่อปรับเข้าสู่การถ่ายภาพแบบ Protrait ไอโฟนจะปรากฏสัญลักษณ์รูปหกเหลี่ยมเหนือแถบเมนู พร้อมกับป้ายที่ระบุว่า “แสงธรรมชาติ” (Natural light) ซึ่งเป็นตัวยืนยันว่าเพื่อนๆ ได้เริ่มต้นเข้าสู่การถ่ายภาพสไตล์โบเก้เป็นที่เรียบร้อย 

แต่ถ้าแสงที่ได้ยังสวยไม่ถูกใจเหมือนตัวจริง ก็ให้ลองแตะไปที่ป้าย Natural light หนึ่งที มันก็จะแสดงตัวเลือกอื่นๆ ในการปรับแต่งแสงออกมา ที่เหลือก็แค่หาอันเหมาะๆ ที่ตรงกับความชอบ ด้วยการปัดนิ้วไปมาซ้าย-ขวาเท่านั้น!!!

เพิ่มเติมเล็กน้อย

  • Studio Light จะทำให้ใบหน้าของตัวบุคคลและสิ่งของ ดูสว่างขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย
  • Contour Light ทำให้ภาพดูมีมิติ เกิดเงามืดตามส่วนต่างๆ ชัดเจน
  • Stage Light ทำให้ภาพพื้นหลังดำสนิท เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวบุคคล

เทคนิค ไม่จำเป็นต้องใช้ Portrait linghting กับทุกการถ่ายภาพ เพราะเพื่อนๆ สามาถเข้าไปแก้ไขรูปธรรมดา (บางรูปที่มีป้ายกำกับว่า Protrait ติดอยู่มุมซ้ายบน) ให้มีสไตล์แบบโบเก้ ด้วยการไปที่อัลบั้ม → แก้ไข → แตะไปที่ไอคอนรูปหกเหลี่ยม

เปลี่ยนมุมกล้อง Panorama 


ใช้มาตั้งนานแต่ก็เพิ่งรู้ได้ไม่กี่วันไม่นี่แหละ ว่าโหมด Panorama สามารถเปลี่ยนทิศได้ จากเดิมที่ต้องวนขวาเพียงอย่างเดียว ด้วยการแตะไปที่ลูกศร ซึ่งอยู่ตรงกลางหน้าจอ (เวลาใช้งาน Panorama) มันก็จะเปลี่ยนทิศกลับให้เพื่อนๆ ทันที

มือสั่นใช่มั้ย? ให้หูฟังมาช่วยถ่ายภาพ Selfie ให้สิ


แม้ว่า Apple จะออกแบบไอโฟน ให้เราสามารถกดชัตเตอร์ได้จากปุ่มข้างๆ โทรศัพท์ เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนเวลาถ่ายรูป แต่ดูเหมือนว่ามันก็ยังไม่ครอบคุมสักเท่าไร โดยเฉพาะเวลาที่ต้องยื่นมือออกไป Selfie กับกลุ่มเพื่อนเยอะๆ

โดยอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการถ่ายภาพ Selfie ให้มีคุณภาพ ที่แม้แต่แฟนตัวยงหลายๆ คน ยังไม่เคยรู้ คือการกดชัตเตอร์ด้วยปุ่มปรับระดับเสียงที่ติดมาบนหูฟัง ซึ่งด้วยวิธีการนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดการสั่นสะเทือน ให้ได้รูปที่มีคุณภาพ แต่ยังจะช่วยเพิ่มระยะให้เพื่อนๆ ถ่ายภาพได้ไกลขึ้น

ทำให้น้องๆ ใช้โทรศัพท์แบบปลอดภัย


เชื่อว่าเด็กสมัยนี้มีโทรศัพท์ติดตัวกันเป็นแทบทุกคน มันจึงค่อนข้างยากที่จะจับตาดูเขาตลอดเวลา  ว่าในหนึ่งวันเขาใช้มันทำอะไร มี Apps ไหนบ้างที่แอบโหลดมาใช้ ซึ่งด้วยฟีเจอร์บน iPhone จะทำให้เพื่อนๆ สามารถคัดกรองและตรวจสอบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมของเด็กๆ ได้

  • ไปที่ตั้งค่า (Settings) → เวลาหน้าจอ (General) → การจำกัด (Restrictions)

จากนั้นให้เพื่อนๆ เข้าไปตั้งค่าเพื่อจำกัดการใช้งานแอป การซื้อขายสินค้า หรือเลือกให้แสดงเฉพาะคอนเทนท์ที่เหมาะสมกับช่วงวัย

เทคนิค เพื่อนๆ สามารถใช้ฟีเจอร์ Family sharing เพื่อแบ่งปันแอปที่ต้องการกับน้องๆ ภายในครอบครัวแบบไม่เสียงเงิน ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเก็บไว้เป็นค่าขนมของเขาในวันอื่นๆ 

หยุดอาการมือติด iPhone


สำหรับฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อเพื่อนๆ มี iOS เวอร์ชั่นตั้งแต่ 12.0 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์การใช้งานแอปบนโทรศัพท์ ว่าวันนึงเราเสียเวลาไปกับกิจกรรมไหน

  • ไปที่ตั้งค่า (Settings) → เวลาหน้าจอ (Screen Time)

ตัวระบบจะแสดงรายละการใช้งานในรอบ 7 วัน ว่าเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นถี่ขนาดไหน เสียเวลาไปกับแต่ละกิจกรรมเท่าไหร่ โดนเพื่อนๆ สามารถทำการเปรียบเทียบย้อนหลัง และวิเคราะห์รายละเอียดเชิงลึกได้ด้วยการแตะไปที่ “กิจกรรมทั้งหมด“

เทคนิค1 นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังสามารถตั้งค่า “เวลาไม่ใช้งาน (Downtime)” เพื่อจำกัดการใช้งานแอปบางประเภทที่เราไม่ต้องการ เพื่อเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงาน 

เทคนิค2 มีฟีเจอร์สำหรับจำกัดเวลาการใช้แอปต่อหนึ่งวัน (และรีเซ็ทใหม่ตอนเที่ยงคืน) ทำให้เพื่อนๆ ไม่ถูกโซเชียลมีเดียหรือ YouTube กินเวลามากเกิ๊นนนน จนลืมที่จะใส่ใจกับครอบครัวและคนรอบข้าง

พิมพ์สัญลักษณ์ด้วยปุ่มลัด


จะพิมพ์สัญลักษณ์ลงไปในข้อความแต่ละที ต้องนั่งเสียเวลาเปลี่ยนแป้นคีร์บอร์ดไปมาระหว่าง กขง กับ 123 โดยที่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นเยอะ ภายในคีบอร์ดแป้นเดียว!!!

สมมุติว่าเรากำลังใช้แป้นไทย แล้วต้องการเพิ่มสัญลักษณ์อื่นๆ ไปเพียง 1-2 ตัว ให้เพื่อนๆ ลองแตะที่แป้น “123” ค้าง แล้วลากนิ้วไปยังตัวเลข หรือ สัญลักษณ์ที่ต้องการ พอยกนิ้วขึ้นคีบอร์ดก็จะกลับมาเป็นภาษาไทยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตัวสัญลักษณ์ที่เลือก ช่วยประหยัดเวลาและพลังงานการเคลื่อนไหว  จากเดิมถึงสามขั้นตอนให้เหลือเพียงหนึ่งเดียว

ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์

เทคนิค ปุ่มบางปุ่มบนแป้นพิมพ์ เช่น “ไม้เอก” จะมีสัญลักษณ์อื่นๆ ซ่อนอยู่ สำหรับใครที่อยากรู้ว่าคืออะไร ก็ให้ลองแตะค้างไว้สัก 1-2 วินาที 

การใช้คีย์บอร์ดมือเดียว


สำหรับ iOS 11 เป็นต้นไป เพื่อนๆ สามารถเข้าไปตั้งค่าเปลี่ยนแปลงรูปแบบของแป้นพิมพ์มือ ให้ตอบกลับแชทไปจนถึงส่งข้อความ ได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงนิ้วโป้งนิ้วเดียว

  • ไปที่ ตั้งค่า(Settings) → ทั่วไป(General) → แป้นพิมพ์(Keyboards) → แตะไปที่ “แป้นพิมพ์แบบใช้มือข้างเดียว”(One-Handed Keyboard) แล้วกดเลือกข้างที่ถนัด.

หรือ

  • แตะค้างที่สัญลักษณ์รูปโลกบริเวณมุมซ้ายล่างของตัวแป้นพิมพ์ แล้วเลือกสลับเป็นแป้นพิมพ์แบบมือข้างเดียว

แทนที่อักษรย่อด้วยระบบอัตโนมัติ


ระบบ iOS นั้นฉลาดกว่าที่เราคิด มันสามารถคาดการณ์คำที่เพื่อนๆ ต้องการจะพิมพ์ ทั้งที่เพิ่งวางตัวอักษรไปแค่ไม่กี่ตัว แถมแก้คำให้ถูกต้องตามพจนานุกรมแบบเสร็จสรรพ ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องตัวสะกดใดๆ

แต่เท่านั้นยังไม่พอ เจ้า iPhone ยังแอบมีฟีเจอร์ลับสำหรับการพิมพ์ที่รวดเร็ว คือ อนุญาตให้เพื่อนๆ เข้าไปกำหนดคำหรือประโยคที่ใช้บ่อยๆ เป็นอักษรย่อ!!! แทนที่จะต้องพิมพ์ประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาหลายพยางค์ แค่เพื่อนๆ วางตัวอักษรลงไป 2-3 ตัว ระบบก็จะแทนที่ด้วยประโยคทั้งประโยคให้เพื่อนๆ เป็นที่เรียบร้อย เช่น กลป = กำลังไป (คำนี้มีในระบบอยู่แล้ว)

วิธีการปรับแต่งอักษรย่อ

  1. ไปที่ ตั้งค่า(Settings) → ทั่วไป(General) → คีย์บอร์ด(Keyboard)
  2. เลือกแทนที่ข้อความ(Text Replacement) ระบบจะแสดงอักษรย่อทั้งหมดที่มี ณ ปัจจุบัน
  3. แตะที่เครื่องหมายบวกริมบนขวา เพื่อเพิ่มอักษรย่อและกดบันทึก

Auto fill ไม่ต้องใส่ Password , ที่อยู่ , ข้อมูล ฯลฯ


ลืม Password ไปแล้วว่าคืออะไร ไม่อยากเสียเวลากรอกข้อมูลอยู่ใช่ไหม? อย่าลืมเปิด Auto Fill ล่ะ  เพราะมันจะช่วยให้เพื่อนๆ ไม่ต้องกรอกชื่อ ที่อยู่ รหัส อีเมล ฯลฯ เป็นรอบที่สองบนเว็ปไซต์ ใช้ได้ทั้งกับบน iPad iPhone รวมไปถึงอุปกรณ์ OS อื่นๆ

  • ไปที่ ตั้งค่า (Settings) → Safari → การป้อนอัตโนมัติ (Autofill)

ข้อมูลที่ระบบจะป้อนให้อัติโนมัติ จะถูกผูกกับรายชื่อ(เบอร์โทร)ภายในเครื่อง ดังนั้นก่อนใช้ฟีเจอร์นี้ ควรตรวจสอบความแม่นยำข้อมูลให้มั่นใจเสียก่อน 

สำหรับบัตรเครดิต เพื่อนๆ ต้องทำการเพิ่มด้วยตัวเองอีกครั้ง

พจนานุกรมภายในเครื่อง


ไม่จำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ต หรือเปิด Google แปลภาษา เพราะ iOS มีพจนานุกรมติดมาให้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เพื่อนๆ ต้องทำการติดตั้งในเบื้องต้น โดยการไปที

  • ตั้งค่า (Settings) → ทั่วไป (General) → พจนานุกรม (Dictionary)

จากนั้นเลือกภาษาที่ต้องการ (มีให้เลือกกว่า 20 ภาษา)  มีทั้ง อังกฤษ-ไทย อังกฤษ-อังกฤษ จีน-อังกฤษ ฯลฯ

วิธีใช้งาน เลื่อนไปที่ซ้ายสุดของหน้า Home แล้วพิมพ์คำที่ต้องการไปในช่องค้นหา ระบบก็จะแสดงข้อมูลที่เกี่ยว (กดเพิ่มเติมเพื่อแสดงข้อมูลทั้งหมด)

จัดการให้ข้อความโดดเด่น


แม้ว่าเจ้าฟีเจอร์จะยังไม่รองรับการใช้งานในทุกภาษา และเพื่อนๆ บางคนก็ต่างรู้กันอยู่แล้ว ว่าจะใช้งานมันกันอย่างไรในเวลาปกติ แต่ทราบกันรึเปล่าว่าจริงๆ แล้ว มันสามารถใช้ร่วมกับอีเมลหรือ App อื่นๆ ได้เช่นกัน แม้จะไม่ปรากฏให้แก้ไขในแถบเครื่องมือ เพียงแตะไปยังคำที่ต้องการแล้วเลือกไปที่ “BIU”

ลบตัวเลขบนเครื่องคิดเลขแบบเร่งด่วน


เทคนิคนี้น่าจะเหมาะกับเพื่อนๆ ที่ต้องคิดเลขยาวเหยียดเป็นจะจำ ซึ่งมันค่อนข้างน่ารำคาญที่หากเราพิมพ์ผิดเพียงแค่นิดเดียวในตอนท้าย จะต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ทั้งหมด!!! …..ซึ่งปัจจุบัน(จริงๆ ก็นานแล้ว) สามารถแก้ไขเลขท้ายที่ผิด ด้วยการปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา

หยุดเล่นเพลงด้วย Timer


“ฟังเพลงชิวๆ ทีไรเผลอหลับทุกที พอตื่นขึ้นมาแบตฯแทบเกลี้ยง”

แก้ปัญหาด้วยเทคนิคลับอย่างการใช้ Timer ที่ติดมากลับตัวเครื่องเป็นตัวช่วยในการตั้งเวลาหยุดเล่นเพลงขณะหลับ!!!

  1. ไปที่ แอปนาฬิกา (Clock app’s) → นาฬิกานับถอยหลัง  
  2. แตะไปที่ “เมื่อเวลาหมด (stylised clock face)” 
  3. เลื่อนลงมาด้านล่าง เลือก “หยุดเล่น (Stop playing)” → ตั้งเวลาที่ต้องการให้เพลงหยุดและกดปุ่มเริ่ม
ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์

ปล.เทคนิคนี้สามารถใช้ได้กับคลิปเสียงและสื่ออื่นๆ 

ค้นหาคำและประโยคที่ต้องการบนเว็บไซต์


อยากค้นหาเฉพาะคำที่ต้องการบนไซต์ใน iPhone ใช่รึเปล่า? ลองแตะไปที่ช่อง URL ในเว็บเพจ แล้วพิมพ์คำหรือประโยคที่ต้องการลงไป → เลื่อนลงมาท้ายสุดของช่องค้นหา ระบบจะแสดงช่วงประโยคที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ให้ AirPods เป็นเครื่องช่วยฟัง


แค่เพื่อนๆ มี AirPods หนึ่งคู่ และ iOS12 เป็นต้นไป ก็สามารถใช้มันเป็นเครื่องขยายเสียง สำหรับการช่วยฟังในชีวิตประจำวัน

  1. ไปที่ ตั้งค่า (Settings) → ศูนย์ควบคุม (Control Centre) → กำหนดตัวควบคุมเอง (Customise Controls)
  2. แตะไปที่ “การรับฟัง (Hearing)”

เมื่อต้องการใช้งาน ให้เพื่อนๆ เข้าไปที่ Control Center แล้วแตะหนึ่งครั้งเพื่อเริ่มต้นการช่วยฟัง  

ปล. เสียงที่ได้ยินจะได้รับผ่านทางไอโฟน และถูกส่งเข้ามายัง Airpods อีกครั้ง ดังนั้นเพื่อนๆ ที่อยากได้ยินเสียงข้างนอกชัดๆ อาจจะต้องถือโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา
ปล.2 อาม่าแอดชอบฟังก์ชั่นนี้มากๆ . เวลากินข้าวกันโต๊ะใหญ่ ได้ยินไม่ทั่วถึง ก็ใช้ฟังก์ชั่นนี้แหละ เชื่อมต่อมือถือกับ airpod แล้ว วางมือถือไว้ด้านที่ไกลอาม่า เพียงเท่านี้อาม่าก็ได้ยินทั่วทั้งโต๊ะแล้วครับ 😉

เก็บเว็บไซต์ไว้อ่านเป็นหนังสือ


เอาใจพันธ์นักอ่านกันบ้าง กับวิธีเซฟเว็บไซต์ให้เป็นหนังสือออฟไลน์ เหมาะกับเว็บที่มีเนื้อหายาวเหยียดจนอ่านครั้งเดียวไม่จบ ต้องแบ่งอ่านขณะเดินทาง ยามว่าง ไปจนถึงเก็บไว้อ่านใหม่อีกรอบ

  • เลือกหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการ → ไปที่ไอคอนแชร์ → แตะที่ “หนังสือ (ฺBooks)”

ปล.ไฟล์ดังกล่าวจะไปปรากฏที่คอลเลคชั่นใน App Books 

คำนวนเลขให้หน่อย Siri 


ไม่ว่าเราจะเก่งเลขขนาดไหน การมี siri เป็นตัวช่วยก็อุ่นใจกว่าเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวนที่ง่ายแบบคิดในใจได้ ไปจนถึงยากระดับที่ต้องหยิบเครื่องคิดเลขมากดก็หายห่วง แต่ถ้ามันยาวกว่าปกติ เพื่อนๆ อาจจะต้องลดสปีดการพูดลงเล็กน้อย เพื่อให้ Siri จับข้อความทัน

สร้างคีย์ลัดสำหรับการใช้งาน


ตั้งแต่ iOS 12 เป็นต้นไป เพื่อนๆ สามารถจัดการสิ่งต่างๆ เช่น โทรหาแฟน สร้างไฟ PDF เปิด-ปิดนาฬิกาปลุกภายในมือถือ ด้วยการสั่งผ่าน Siri หรือแตะที่คีย์ลัดเพียงครั้งเดียว 

สิ่งที่เพื่อนๆ ต้องทำก็แค่ดาวน์โหลดแอป Shortcuts มาเท่านั้น!!! โดยในตอนเริ่มต้น ตัว App จะมีคีย์ลัดพื้นฐานติดมาให้ประมาณ 4-5 อัน ซึ่งเราสามารถเข้าไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ 

ปล.แต่ถ้ายังไม่มีไอเดียอะไรเด็ดๆ ก็ลองแตะไปที่ไอคอนแกลเลอรี่บริเวณมุมขวาล่างดู แอปก็จะแนะนำคีย์ลัดต่างๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นมากที่สุด

ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์

วัดขนาดวัตถุด้วยโปรแกรมบนโทรศัพท์


ด้วยแอปเครื่องมือวัด (Measure) ที่พ่วงมากับ iOS12 เป็นต้นไป จะทำให้เพื่อนๆ บางคน ไม่ต้องพกไม้บรรทัดหรือตลับเมตรติดตัวอีกต่อไป เนื่องจากเรา สามารถวัดขนาดวัตถุด้วยแอปบนไอโฟน

สิ่งที่เราต้องสำหรับการใช้งานเจ้าแอปนี้ คือการเคลื่อนที่ซ้าย-ขวา หรือขึ้น-ลงไปมาในด้านที่ต้องการ พร้อมทั้งระบุจุดและลากเส้นปะประกอบ เพื่อให้แอปเริ่มคำนวนระยะของวัตถุคร่าวๆ

  1. เมื่อเปิดแอป เพื่อนๆ จะเห็นวัตถุทรงกลมเคลื่อนที่ไปมาบนหน้าจอ 
  2. ให้เริ่มระบุจุด บนตัววัตถุตามแนวที่ต้องการทราบขนาด
  3. แอปจะเริ่มทำการคำนวนขนาดของวัตถุนั้น

เทคนิค เพื่อความแม่นยำ แนะนำให้เพื่อนๆ ใช้ฟีเจอร์ระนาบเพื่อวัดขนาดของวัตถุในมุม(องศา)เดียวกัน

วิธีเปิดโหมด Night Shift  ในเวลากลางคืน 


สำหรับเจ้า Night Shift นั้น ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เกร๋ๆ สำหรับมือถือเพียงอย่างเดียว แต่มันช่วยลดโทนสีขาวบนหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้การเล่นมือถือในที่มืดเป็นอันตรายน้อยลง แถมไม่รบกวนการนอนหลับของคนข้างๆ มากนัก

วิธีใช้งาน Night Shift

  • ไปที่ ตั้งค่า (Settings) → จอภาพและความสว่าง (Display & Brightness) → Night Shift.

หรือ

  • ไปที่ Control Center → แตะค้างที่ไอคอนพระอาทิตย์สำหรับปรับเพิ่ม-ลดแสง → เลือกเปิด Night Shift
ไม่ได้มีดีแค่กล้อง แต่ iPhone ยังมาพร้อมระบบสุดเจ๋ง เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้กลายเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ด้วยเทคนิคและลูกเล่นกว่า 36 แบบที่ถูกซ่อนไว้ในโทรศัพท์

ปล. เพื่อนๆ สามารถกำหนดระยะเวลาการเปิด-ปิด และความอุ่นของอุณหภูมิเองได้ ด้วยการไปที่ settings

ตั้งค่า iPhone อ่านออกเสียงข้อความให้ฟัง


“กำลังขับรถอยู่อ่านข้อความเองไม่ได้ ทำไมไม่ลองให้ไอโฟนเล่าให้ฟังดูล่ะ”

อีกหนึ่งเทคนิคลับสำหรับคนใช้ไอโฟน เหมาะมากๆ กับใครที่มีปัญหาเรื่องการมองเห็น หรือกำลังวุ่นอยู่กับการขับรถแต่ต้องการฟังข้อความที่ส่งมา และจะยิ่งมีประโยชน์ยิ่งขึ้น เมื่ออีกฝั่งพิมพ์ข้อความมายาวเหยียด

  • ไปที่ตั้งค่า (Settings) → การช่วยเข้าถึง (Accessibility) → การอ่านเนื้อหา (Speak Selection)

เทคนิค เพื่อนๆ สารมารถปุ่มลัดบนหน้าจอ ให้อ่านข้อความได้ในทันที ด้วยการเข้าไปใน “การอ่านเนื้อหา”

ส่งท้าย


จบไปแล้วกับ 36 วิธีใช้ iPhone แบบมือโปรฯ  มีเทคนิคไหนที่โดนใจหรือเพื่อนๆ อยากเสริมอะไรเพิ่มเติม ก็แวะเข้ามาพูดคุยกับแอดได้ที่ใต้คอมเมนต์น้าาาา

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here