ในปัจจุบีนที่เทคโนโลยีก้าวไปไกลขนาดนี้แล้วนั้น การที่เราจะใช้จ่ายเงินไปกับการใช้จ่ายสิ่งต่างๆ นั้นสามารถทำได้ผ่านบริการต่างๆ มากมายโดยที่เราไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวไปเลยด้วยซ้ำ ซึ่งหนึ่งในบริการเหล่านั้นก็คือ Paypal ครับ หลายๆ คนคงเคยอาจจะใช้กันแล้ว
วันนี้แอดมินจะมาแนะนำวิธีการตั้งค่า Paypal ให้ประหยัดเงินไปได้หลายพันเลย ถ้าอยากรู้แล้วว่าทำไงไปดูพร้อมๆ กันเลยครับ 🙂
ก่อนอื่นเลยหลายๆ คนอาจจะสงสัยกันว่าไอเจ้า Paypal (เพลแพล) เนี่ยมันคืออะไรกัน มันนี่คือบริการที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็น ธนาคารออนไลน์ ครับ ที่จะทำหน้าที่บริการแบบ Internet Banking โดยเราสามารถ ฝาก โอนเงิน ผ่านบริการนี้ได้ครับ โดยจะถูกคิดค่าบริการเป็นค่าธรรมเนียมเล็กน้อย หรือจะถูกคิดดอกเบี้ยงผ่านทางการอำนวยความสะดวกของบริการเล็กน้อยครับ ทาง Paypal นั้นยังทำหน้าที่ดูแลการชำระเงินระหว่างคุณกับผู้ค้าอีกด้วย ในขณะที่เราชำระเงินผ่านทางบริการ เพลแพล จะทำหน้าที่รับประกันเงินของคุณอีกด้วย ในกรณีที่คุณไม่ได้รับของ ถ้าการตรวจสอบพบว่าไม่ได้เป็นผลมาจากเราที่เป็นผู้ซื้อ เพลแพล จะคืนเงินให้กับคุณโดยหักค่าธรรมเนียมเล็กน้อย แล้วทาง เพลแพล จะไปเก็บเงินจากผู้ขายที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นแทนครับ
ตอนนี้ทุกคนคงรู้จักกับบริการ เพลแพล กันแล้วนะครับ งั้นต่อมาเรามาดูกันดีกว่าว่าเราควรตั้งค่าเพราะอะไรและตั้งค่าอย่างไรครับ ในกรณีที่เราใช้บริการ เพลแพล ชำระเงินข้ามประเทศ เราจะพบว่าเรทการแลกเปลี่ยนที่ Paypal ให้เรา แพงมากๆ แพงกว่าบัตรเครดิตเสียอีก
มีเคล็ดลับในหมู่นักช้อปต่างประเทศว่า เวลารูดบัตรเครดิต ให้คิดเงินบัตรเป็น local currency จะถูกกว่าเกือบตลอด วันนี้แอดมินจะมาแนะนำการตั้งค่า Paypal ให้ชำระใน rate credit card แทน rate paypal ซึ่งแพงกว่ามาก
เช่น เราอยู่ อังกฤษ ที่ใช้หน่วยเงินเป็นหน่วยปอนด์ จ่ายค่าสินค้าผ่านบัตรเครดิต Visa หรือ MasterCard ไปยัง สหรัฐอเมริกา ขณะที่เราจะโอนเงินซื้อของในราคา 600 ปอนด์ กลับขึ้นแสดงหน่วยเงินเป็นดอลลาร์ครับ และยอดเงินที่แสดงนั้นคือ 802.03 ดอลลาร์ เลยทีเดียว จึงเป็นที่มาของการตั้งค่านี้ครับ เพื่อให้ยอดเงินที่เราต้องชำระลดน้อยลงไป เจ๋งใช่มั้ยหละครับมาดูกันเลยดีกว่าว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

ขั้นตอนแรก ให้คุณเข้าสู่ระบบบัญชี เพแพล ของคุณครับ แล้วคลิกไปที่ “Payments” ที่แถบทางด้านบน จากนั้นตรงหัวข้อ “Manage Pre-approved Payments” กด update ครับ หลังจากนั้นให้เลือกไปที่ “Set Available Funding Sources” ครับ
ขั้นถัดมา ในหน้านี้ให้คุณคลิกไปที่ “Conversion Options” ครับ โดยเราจะสามารถเลือกให้จ่ายผ่านบัตร Visa หรือ MasterCard ของเราได้ครับ
หลังจากนั้น ให้คุณเลือกไปที่ Bill me in the currency listed on the seller’s invoice ครับ (ตัวเลือกที่สอง) พอปรับเป็นแบบนี้แล้วเราก็สามารถจ่ายเงินเป็นหน่วย local ที่ตั้งไว้ในบัตรเครดิตได้แล้วครับ (ปกติแล้วของคนไทยก็เป็น บาทนั่นแหละ)
พอเราทำแบบนี้แล้วการโอนเงิน 600 ปอนด์ ของเราจากที่ต้องจ่าย 802.03 ดอลลาร์ จะเหลือเพียง 775.32 ดอลลาร์เท่านั้นครับ ประหยัดไปได้ถึง 27 ดอลลาร์ เลยทีเดียว ตีเป็นเงินไทยได้ถึง 869.67 บาท เกือบพันนึงเลยนะครับ เซฟเงินของเราได้ขนาดนี้เลยนะ ฮ่า ฮ่า (ถ้าเราซื้อสินค้าที่ราคาสูงกว่านี้จะประหยัดไปได้ถึงหลักพัน หรือ หลายพัน เลยนะครับ)
เป็นไงกันบ้างหละครับทุกคนกับวิธีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ถ้าใครคิดว่าดีหรือมีประโยชน์ก็สามารถนำไปทำตามกันได้เลยนะครับ แอดมินไม่คิดตังค์หรอกนะ อิอิ ขอให้ทุกคนมีความสุขสนุกกับการช้อปปิ้งครับ 😀
cr. ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก mommypoints.boardingarea.com ครับ :3